Smart ทีวี 65 นิ้ว ยี่ห้อไหนดี กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปี 2025 เนื่องจากเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการรับชมในห้องนั่งเล่นขนาดกลางถึงใหญ่ มอบประสบการณ์ ภาพคมชัดเต็มตา และ ความบันเทิงระดับโรงภาพยนตร์ ได้ที่บ้าน ปัจจุบัน เทคโนโลยีทีวี ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยมีการพัฒนา Mini LED, OLED และ QLED ซึ่งช่วยให้ภาพมีสีสันสมจริง คอนทราสต์สูง และรองรับ HDR ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ สมาร์ททีวีสมัยใหม่ยังมาพร้อมกับ ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ เช่น Google TV, webOS และ Tizen OS ที่ช่วยให้เข้าถึงแอปสตรีมมิ่งต่างๆ ได้ง่าย ก่อนเลือกซื้อ ทีวี 65 นิ้ว ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ความละเอียด 4K หรือ 8K, รีเฟรชเรทสำหรับการเล่นเกม, ระบบเสียง, การรองรับ Dolby Vision และ HDR10+ รวมถึง พอร์ตเชื่อมต่อ HDMI, Wi-Fi 6 และ Bluetooth เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถเลือก ทีวีจอใหญ่ ที่ตรงกับความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ทีวี OLED, ทีวี QLED หรือสมาร์ททีวีราคาคุ้มค่า ตามงบประมาณที่ตั้งไว้
10 ทีวี 65 นิ้ว ยี่ห้อไหนดี 2025 ภาพคมชัด ฟีเจอร์ครบ
1. LG NanoCell AI NANO81 4K Smart TV 65 นิ้ว รุ่น 65NANO81TSA
LG NanoCell AI NANO81 รุ่น 65NANO81TSA เป็นสมาร์ททีวีที่มาพร้อมเทคโนโลยี NanoCell Display ช่วยเพิ่มความคมชัดและให้สีสันที่แม่นยำ รองรับความละเอียดระดับ 4K UHD พร้อมหน่วยประมวลผล AI Processor ที่ช่วยปรับภาพและเสียงให้เหมาะสมกับคอนเทนต์ที่รับชม นอกจากนี้ ยังรองรับ HDR10 Pro และ HLG เพื่อให้ภาพมีมิติและคมชัดมากขึ้น ระบบเสียง AI Sound ปรับแต่งเสียงอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม ทำให้การรับชมสมจริงยิ่งขึ้น รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทั้ง HDMI, USB และ Wi-Fi พร้อมกับ ThinQ AI ที่ช่วยให้สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Alexa
จุดเด่นของรุ่นนี้
- หน้าจอ NanoCell Display ให้สีสันสดใสและภาพคมชัด
- ความละเอียด 4K UHD พร้อม AI Processor ปรับภาพอัตโนมัติ
- รองรับ HDR10 Pro และ HLG เพื่อคุณภาพภาพที่เหนือกว่า
- ระบบเสียง AI Sound ปรับแต่งตามสภาพแวดล้อม
- รองรับ ThinQ AI สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Alexa
- รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้ง HDMI, USB และ Wi-Fi
ระบบปฏิบัติการ
มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ webOS ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย รองรับแอปสตรีมมิงยอดนิยม เช่น Netflix, YouTube, Disney+ และ Prime Video อีกทั้งยังมี Magic Remote ที่ช่วยให้ควบคุมทีวีได้สะดวกขึ้นผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง
2. Samsung Crystal UHD 4K 65 นิ้ว รุ่น UA65DU7000KXXT
Samsung Crystal UHD 4K 65 นิ้ว รุ่น UA65DU7000KXXT เป็นสมาร์ททีวีที่ให้ภาพคมชัดระดับ 4K พร้อมเทคโนโลยี Dynamic Crystal Color ที่ช่วยเพิ่มความสดใสของสีสัน รองรับ HDR10+ ทำให้ภาพมีมิติและรายละเอียดที่ชัดเจน มีชิปประมวลผล Crystal Processor 4K ที่ช่วยปรับภาพให้เหมาะสมกับคอนเทนต์ที่รับชม ขอบจอบางเฉียบแบบ AirSlim Design ช่วยให้ดูสวยงามและทันสมัย รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันยอดนิยม เช่น Netflix, YouTube และ Disney+ อีกทั้งยังมีโหมด Auto Game Mode ลดความหน่วงของภาพสำหรับการเล่นเกม เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้านทั้งดูหนัง กีฬา และเล่นเกม
จุดเด่นของรุ่นนี้
- หน้าจอความละเอียด 4K UHD พร้อมเทคโนโลยี Dynamic Crystal Color
- รองรับ HDR10+ ให้ภาพคมชัดและสมจริงมากขึ้น
- ชิปประมวลผล Crystal Processor 4K ช่วยปรับคุณภาพของภาพให้ดีขึ้น
- ดีไซน์ AirSlim ขอบบางเฉียบ เพิ่มความสวยงามให้กับห้อง
- มีโหมด Auto Game Mode ลดอาการภาพหน่วงในการเล่นเกม
- รองรับแอปสตรีมมิ่งยอดนิยมและการเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สาย
ระบบปฏิบัติการ
Samsung Crystal UHD 4K รุ่นนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen OS ซึ่งพัฒนาโดย Samsung เอง ทำให้การใช้งานลื่นไหลและมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย รองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติมจาก Samsung App Store รวมถึงรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Bixby, Google Assistant และ Alexa อีกด้วย
3. TCL 4K Mini QLED Google TV 65 นิ้ว รุ่น 65QM8B
TCL 65QM8B เป็นสมาร์ททีวีระดับพรีเมียมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Mini QLED ให้ภาพคมชัดระดับ 4K รองรับ Dolby Vision และ HDR10+ ช่วยเพิ่มความลึกของสีและความสว่างอย่างสมจริง หน้าจอขนาด 65 นิ้ว มีอัตรารีเฟรชสูง 144Hz ตอบสนองได้รวดเร็วเหมาะสำหรับการเล่นเกม ระบบเสียง Dolby Atmos ให้มิติเสียงรอบทิศทางเพื่อประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือกว่า มาพร้อมฟีเจอร์ Full Array Local Dimming ปรับแสงแบ็คไลท์อัตโนมัติให้เหมาะสมกับฉากต่าง ๆ รองรับ Google Assistant และ Chromecast ในตัว ช่วยให้ควบคุมการใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น ดีไซน์บางเฉียบไร้ขอบ เพิ่มความสวยงามให้กับห้อง
จุดเด่นของรุ่นนี้
- เทคโนโลยี Mini QLED ให้ภาพคมชัดระดับ 4K
- รองรับ Dolby Vision, HDR10+ เพิ่มมิติของสีและแสง
- อัตรารีเฟรช 144Hz เล่นเกมลื่นไหล ไม่มีสะดุด
- ระบบเสียง Dolby Atmos มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทาง
- Full Array Local Dimming ปรับแสงอัตโนมัติ เพิ่มคอนทราสต์
- ดีไซน์บางเฉียบไร้ขอบ เพิ่มความหรูหราให้กับพื้นที่ติดตั้ง
- รองรับ Google Assistant และ Chromecast ในตัว
ระบบปฏิบัติการ
TCL 65QM8B ใช้ระบบปฏิบัติการ Google TV ที่ให้การเข้าถึงแอปสตรีมมิ่งยอดนิยม เช่น Netflix, YouTube, Disney+ และ Prime Video รองรับการควบคุมด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ทำให้การค้นหารายการโปรดเป็นเรื่องง่าย อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายและปรับแต่งได้ตามต้องการ รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 ช่วยให้การเชื่อมต่อเสถียรและรวดเร็ว
4. Toshiba 4K Ultra HD Quantum Dot Google TV 65 นิ้ว รุ่น 65M550NP
Toshiba 65M550NP เป็นสมาร์ททีวีขนาด 65 นิ้วที่มาพร้อมกับความคมชัดระดับ 4K Ultra HD และเทคโนโลยี Quantum Dot ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพสีให้สดใสและสมจริงยิ่งขึ้น รองรับ HDR10+ และ Dolby Vision ทำให้การรับชมภาพยนตร์และคอนเทนต์ต่างๆ มีมิติและรายละเอียดที่คมชัด ระบบเสียง DTS Virtual:X ให้เสียงกระจายรอบทิศทาง เพิ่มประสบการณ์ความบันเทิงให้สมบูรณ์แบบ หน้าจอแบบ Full Array Local Dimming ช่วยควบคุมแสงและคอนทราสต์ได้อย่างแม่นยำ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและแอปพลิเคชันผ่าน Google TV ที่มีฟังก์ชันอัจฉริยะ รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และ Chromecast Built-in เพื่อสะดวกต่อการแชร์คอนเทนต์จากอุปกรณ์พกพา
จุดเด่นของรุ่นนี้
- หน้าจอ 65 นิ้ว ความละเอียด 4K Ultra HD
- เทคโนโลยี Quantum Dot สีสันสดใสสมจริง
- รองรับ HDR10+ และ Dolby Vision
- ระบบเสียง DTS Virtual:X
- Full Array Local Dimming ควบคุมแสงแม่นยำ
- Google TV พร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ
- รองรับ Google Assistant และ Chromecast Built-in
ระบบปฏิบัติการ
Toshiba 65M550NP ใช้ระบบปฏิบัติการ Google TV ที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันยอดนิยม เช่น YouTube, Netflix, Disney+ และ Prime Video ได้อย่างง่ายดาย รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่นๆ ได้อย่างสะดวก
5. Hisense 4K QLED Google TV 65 นิ้ว รุ่น 65E7N
Hisense 4K QLED Google TV รุ่น 65E7N เป็นสมาร์ททีวีที่ให้คุณภาพภาพระดับ 4K UHD พร้อมเทคโนโลยี QLED ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดของสีและรายละเอียดของภาพ รองรับ Dolby Vision HDR และ HDR10+ ทำให้ภาพสวยสมจริงและมีมิติที่ลึกขึ้น ขนาดหน้าจอ 65 นิ้วเหมาะสำหรับการรับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกม รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz ช่วยลดการกระตุกของภาพขณะเคลื่อนไหว และมาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้เสียงกระหึ่มรอบทิศทาง เชื่อมต่อได้ง่ายผ่านพอร์ต HDMI, USB และรองรับ Wi-Fi 6 รวมถึงการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการทีวีที่ครบครันทั้งภาพ เสียง และความสะดวกในการใช้งาน
จุดเด่นของรุ่นนี้
- เทคโนโลยี QLED ให้สีสันคมชัดและสวยงาม
- รองรับ Dolby Vision HDR และ HDR10+
- รีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz ลดการกระตุกของภาพ
- ระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงสมจริง
- รองรับ Wi-Fi 6 และการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant
- ดีไซน์บางเฉียบ ขอบจอบาง เพิ่มพื้นที่รับชม
ระบบปฏิบัติการ
ใช้ระบบปฏิบัติการ Google TV ที่ให้การเข้าถึงคอนเทนต์จากแอปยอดนิยม เช่น Netflix, YouTube, Disney+ และ Prime Video รองรับ Google Assistant สำหรับสั่งงานด้วยเสียง และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมได้อย่างง่ายดาย
6. Panasonic 4K Google TV 65 นิ้ว รุ่น TH-65MX800T
Panasonic TH-65MX800T เป็นสมาร์ททีวี 4K ขนาด 65 นิ้ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Google TV ช่วยให้คุณเข้าถึงคอนเทนต์จากแอปสตรีมมิ่งชั้นนำได้ง่ายและสะดวก หน้าจอแสดงผลแบบ LED รองรับ HDR10 และ Dolby Vision ให้สีสันสดใส คมชัดทุกมุมมอง ระบบเสียง Dolby Atmos มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริง ดีไซน์ขอบจอบางเพิ่มความหรูหราให้กับพื้นที่ใช้งาน รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย รวมถึง HDMI, USB และ Bluetooth เหมาะสำหรับการรับชมความบันเทิงเต็มรูปแบบ
จุดเด่นของรุ่นนี้
- หน้าจอ 4K UHD รองรับ HDR10 และ Dolby Vision
- ระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงสมจริง
- Google TV รวมแอปสตรีมมิ่งไว้ในที่เดียว
- ดีไซน์ขอบบาง ทันสมัย
- รองรับการเชื่อมต่อ HDMI, USB, Bluetooth
ระบบปฏิบัติการ
Panasonic TH-65MX800T ใช้ระบบปฏิบัติการ Google TV ที่ช่วยให้การเข้าถึงคอนเทนต์เป็นเรื่องง่าย รองรับคำสั่งเสียงผ่าน Google Assistant และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมได้
7. Xiaomi TV A Pro 65 2025 QLED 4K
Xiaomi TV A Pro 65 2025 เป็นสมาร์ททีวีที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี QLED 4K ที่ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส และความละเอียดสูง รองรับอัตราการรีเฟรชที่ราบรื่น ช่วยให้การรับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหล ตัวเครื่องดีไซน์บางเฉียบ ขอบจอบาง ให้ความรู้สึกพรีเมียม รองรับ Dolby Vision และ HDR10+ เพื่อเพิ่มมิติของสีและแสงเงา มาพร้อมระบบเสียงคุณภาพสูงที่รองรับ Dolby Atmos และ DTS-HD ทำให้เสียงกระหึ่ม สมจริง รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทั้ง HDMI, USB, Wi-Fi และ Bluetooth อีกทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน AI อัจฉริยะที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น
จุดเด่นของรุ่นนี้
- เทคโนโลยี QLED 4K ให้สีสันสดใสและความคมชัดสูง
- รองรับ Dolby Vision และ HDR10+ เพิ่มมิติของภาพ
- ระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS-HD สมจริง
- อัตราการรีเฟรชสูง ให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหล
- ดีไซน์บางเฉียบ ขอบจอบาง ดูหรูหรา
- รองรับการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง HDMI, USB, Wi-Fi และ Bluetooth
ระบบปฏิบัติการ
Xiaomi TV A Pro 65 2025 ใช้ระบบปฏิบัติการ Google TV ที่รองรับการเข้าถึงแอปพลิเคชันมากมายจาก Google Play Store รองรับ Google Assistant และ Chromecast ในตัว ช่วยให้การสั่งงานด้วยเสียงและการแชร์คอนเทนต์จากอุปกรณ์อื่นเป็นเรื่องง่าย
8. TCL QLED 4K Google TV 65 นิ้ว รุ่น 65T7B
TCL QLED 4K Google TV รุ่น 65T7B เป็นทีวีระดับพรีเมียมที่ให้ประสบการณ์รับชมที่คมชัด สีสันสดใส ด้วยเทคโนโลยี QLED และความละเอียด 4K รองรับ HDR10+ และ Dolby Vision ให้ภาพมีมิติและคอนทราสต์ที่โดดเด่น ขนาด 65 นิ้วเหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นหรือโฮมเธียเตอร์ มาพร้อมกับ Google TV ที่ให้การเข้าถึงแอปและคอนเทนต์ออนไลน์ได้สะดวก รองรับ Google Assistant และ Chromecast ในตัว เพิ่มความสะดวกสบายในการสตรีมคอนเทนต์จากอุปกรณ์อื่นๆ ระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงกระหึ่มสมจริง เหมาะสำหรับการดูหนังและเล่นเกม รีเฟรชเรต 120Hz ช่วยลดอาการภาพกระตุก เล่นเกมได้ลื่นไหล เชื่อมต่อได้หลากหลายทั้ง HDMI, USB และ Wi-Fi
จุดเด่นของรุ่นนี้
- เทคโนโลยี QLED ให้สีสันสดใสและคมชัด
- ความละเอียด 4K รองรับ HDR10+ และ Dolby Vision
- รีเฟรชเรต 120Hz ลดอาการกระตุก เหมาะสำหรับเกมเมอร์
- ระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงสมจริงรอบทิศทาง
- Google TV รองรับการเข้าถึงแอปสตรีมมิงและคอนเทนต์ออนไลน์
- Chromecast และ Google Assistant ในตัว ใช้งานง่าย
- รองรับการเชื่อมต่อ HDMI, USB, Wi-Fi และ Bluetooth
ระบบปฏิบัติการ
TCL 65T7B ใช้ระบบ Google TV ที่มาพร้อมอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย รองรับแอปสตรีมมิงยอดนิยม เช่น Netflix, YouTube, Disney+ และ Prime Video รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฮมและอุปกรณ์อื่นๆ ได้สะดวก
9. Panasonic 4K Google TV 65 นิ้ว รุ่น TH-65MX650T
Panasonic 4K Google TV รุ่น TH-65MX650T มาพร้อมหน้าจอขนาด 65 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส และรองรับ HDR10 ช่วยเพิ่มมิติของแสงและเงาให้สมจริง ระบบประมวลผลอัจฉริยะช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพให้ดีขึ้น รองรับการสตรีมมิ่งจากแอปยอดนิยม เช่น YouTube, Netflix และ Disney+ พร้อมเทคโนโลยี Dolby Vision และ Dolby Atmos เพื่อประสบการณ์การรับชมที่เหนือกว่า การเชื่อมต่อครบครันด้วย HDMI, USB และ Bluetooth พร้อมรองรับ Wi-Fi สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ดีไซน์บางเฉียบทันสมัยเหมาะกับทุกพื้นที่ภายในบ้าน ควบคุมง่ายผ่าน Google Assistant รองรับคำสั่งเสียง รองรับ Chromecast ในตัว ให้คุณแชร์คอนเทนต์จากสมาร์ทโฟนได้สะดวก
จุดเด่นของรุ่นนี้
- หน้าจอ 4K UHD ขนาด 65 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี HDR10
- ระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงกระหึ่มสมจริง
- รองรับแอปสตรีมมิ่งชั้นนำ เช่น Netflix, YouTube, Disney+
- มี Chromecast ในตัว เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนง่าย
- รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลายด้วย HDMI, USB และ Bluetooth
- ดีไซน์บางเฉียบ ทันสมัย เหมาะกับทุกพื้นที่ในบ้าน
ระบบปฏิบัติการ
Panasonic TH-65MX650T ใช้ระบบปฏิบัติการ Google TV ที่มาพร้อมอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย รองรับการสตรีมมิ่งและแอปพลิเคชันยอดนิยม พร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ ให้คุณเข้าถึงคอนเทนต์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมง่ายผ่านรีโมตหรือคำสั่งเสียงผ่าน Google Assistant
10. Toshiba 4K Ultra HD Wi-Fi HDR10 Smart TV 65 นิ้ว รุ่น 65E330NP
Toshiba 65E330NP เป็นสมาร์ททีวีขนาด 65 นิ้วที่มาพร้อมความคมชัดระดับ 4K Ultra HD รองรับเทคโนโลยี HDR10 ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดและสีสันให้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น หน้าจอแสดงผลให้รายละเอียดที่ชัดเจนทุกมุมมอง เหมาะสำหรับการรับชมภาพยนตร์และเล่นเกม เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ทำให้สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ออนไลน์ได้ง่าย รองรับแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งยอดนิยม เช่น Netflix, YouTube และ Prime Video ดีไซน์บางเฉียบ ทันสมัย เสริมความหรูหราให้กับพื้นที่ใช้งาน รองรับระบบเสียงคุณภาพสูงที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับชมให้เต็มอรรถรส ใช้งานง่ายด้วยรีโมทอัจฉริยะ พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียง
จุดเด่นของรุ่นนี้
- ความละเอียด 4K Ultra HD พร้อม HDR10
- หน้าจอขนาด 65 นิ้ว ให้ภาพคมชัดสมจริง
- รองรับ Wi-Fi เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้สะดวก
- รองรับแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งยอดนิยม
- ดีไซน์บางเฉียบ ทันสมัย
ระบบปฏิบัติการ
ใช้ระบบปฏิบัติการ Smart TV ที่รองรับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ผ่านการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
ตารางเปรียบเทียบสเปคทีวี 65 นิ้ว
รุ่น | ความละเอียด | ประเภทจอ | ระบบปฏิบัติการ | ฟีเจอร์เด่น | ราคาประมาณ (บาท) |
---|---|---|---|---|---|
Samsung UA65DU7000KXXT | 4K UHD | Crystal UHD | Tizen OS | HDR10+, PurColor | 18,990 |
TCL 65T7B | 4K UHD | QLED | Google TV | Dolby Vision, Dolby Atmos | 22,990 |
Toshiba 65M550NP | 4K UHD | Quantum Dot | Google TV | Dolby Vision, HDR10+ | 19,990 |
Hisense 65E7N | 4K UHD | QLED | Google TV | Dolby Vision, HDR10+ | 21,990 |
Panasonic TH-65MX800T | 4K UHD | LED | Google TV | HDR10+, Google Assistant | 18,490 |
Toshiba 65E330NP | 4K UHD | LED | Google TV | HDR10, Wi-Fi | 16,990 |
LG 65NANO81TSA | 4K UHD | NanoCell | webOS | AI Picture Pro, Dolby Vision | 25,990 |
TCL 65QM8B | 4K UHD | Mini LED + QLED | Google TV | 144Hz, Mini LED, Dolby Atmos | 32,990 |
Panasonic TH-65MX650T | 4K UHD | LED | Google TV | HDR10, Google Assistant | 17,990 |
Xiaomi TV A Pro 65 2025 | 4K UHD | QLED | Google TV | QLED, MEMC, HDR10+ | 19,990 |
วิธีเลือกซื้อ ทีวี 65 นิ้ว ให้เหมาะกับคุณ
ความละเอียดหน้าจอ: 4K vs 8K
ปัจจุบัน ทีวี 65 นิ้ว ส่วนใหญ่มีความละเอียด 4K UHD (3840 × 2160 พิกเซล) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับสมาร์ททีวีในปี 2025 ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส และรองรับ HDR10 และ Dolby Vision อย่างไรก็ตาม 8K UHD (7680 × 4320 พิกเซล) แม้จะมีความละเอียดสูงกว่า แต่คอนเทนต์ที่รองรับยังมีจำกัด และราคายังสูงมาก ดังนั้น ทีวี 4K ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
ประเภทของจอ: LED, OLED, QLED, Mini LED
- LED TV: เป็นทีวีราคาถูกที่สุด มีความคุ้มค่า เหมาะสำหรับการรับชมทั่วไป
- QLED TV: ใช้เทคโนโลยี Quantum Dot ทำให้สีสันสดใสขึ้น สว่างขึ้น และแสดงสีดำได้ลึกกว่าจอ LED ทั่วไป
- Mini LED TV: พัฒนาจาก LED โดยเพิ่มจำนวนหลอดไฟแบ็คไลท์ ทำให้ภาพสว่างและคอนทราสต์ดีขึ้น
- OLED TV: แต่ละพิกเซลเปล่งแสงเองได้ ทำให้ได้สีดำสนิทและคอนทราสต์สูงสุด เหมาะกับการดูหนังและเล่นเกม
ระบบปฏิบัติการ: Android TV, webOS, Tizen
- Android TV / Google TV: ใช้งานง่าย มีแอปมากมาย รองรับ Google Assistant และ Chromecast
- webOS (LG): อินเทอร์เฟซเรียบง่าย ลื่นไหล รองรับ ThinQ AI
- Tizen OS (Samsung): รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Samsung ได้ดี มี Bixby และ SmartThings
ฟีเจอร์เสริม: HDR10, Dolby Vision, HDMI 2.1 สำหรับเกมเมอร์
- HDR10 / Dolby Vision: ช่วยให้ภาพมีมิติและสีที่สมจริงมากขึ้น
- HDMI 2.1: จำเป็นสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการรีเฟรชเรทสูง 120Hz และ VRR (Variable Refresh Rate)
- Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2: ทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์เสริมเสถียรขึ้น
การเลือกซื้อ ทีวี 65 นิ้ว ยี่ห้อไหนดี ควรคำนึงถึงการใช้งานหลัก เช่น ดูหนัง, เล่นเกม, ใช้เป็นสมาร์ททีวี หากต้องการ ทีวีเล่นเกม ควรเลือกทีวีที่มี HDMI 2.1 และรีเฟรชเรทสูง ส่วนใครที่ต้องการ สมาร์ททีวีราคาถูก ควรมองหาตัวเลือกที่มี QLED หรือ Mini LED เพื่อให้ได้คุณภาพภาพที่ดีที่สุดในงบประมาณที่คุ้มค่า
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ทีวี 65 นิ้วขนาดใหญ่เกินไปไหม?
ทีวี 65 นิ้ว เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่ โดยมีระยะนั่งที่เหมาะสมประมาณ 2.5 – 3.5 เมตร เพื่อให้รับชมได้สบายตาโดยไม่ต้องหันศีรษะมาก หากติดตั้ง ทีวีติดผนัง ก็ช่วยประหยัดพื้นที่และเพิ่มความสวยงามให้กับห้อง
OLED หรือ QLED อันไหนดีกว่า?
OLED TV ให้ สีดำสนิท คอนทราสต์สูง และมุมมองกว้าง เหมาะสำหรับการดูหนังและซีรีส์ที่ต้องการภาพสมจริง
QLED TV ให้ ความสว่างสูง สีสดกว่า และเหมาะกับห้องที่มีแสงเยอะหรือต้องการ ทีวีประหยัดไฟ กว่า OLED
หากต้องการ ภาพที่ดีที่สุดและงบไม่ใช่ปัญหา → เลือก OLED
หากต้องการ สีสดและอายุการใช้งานยาวขึ้น → เลือก QLED
ทีวี 65 นิ้วติดผนังได้ไหม?
ได้แน่นอน! ทีวี 65 นิ้วสามารถติดตั้งกับขาแขวนติดผนัง (Wall Mount) ได้ ควรเลือกขาแขวนที่รองรับน้ำหนักของทีวีและติดตั้งในระดับสายตาเพื่อการรับชมที่สบายที่สุด
ทีวี 65 นิ้วมี 4K และ 8K ควรเลือกแบบไหนดี?
ทีวี 4K ยังคงเป็นมาตรฐานที่คุ้มค่า เนื่องจาก คอนเทนต์ 8K ยังมีน้อยมาก และราคาของทีวี 8K ยังค่อนข้างสูง แนะนำให้เลือกทีวี 4K ที่มีฟีเจอร์รองรับ HDR10+ หรือ Dolby Vision เพื่อคุณภาพของภาพที่ดีขึ้น
สรุปและแนะนำการเลือกซื้อทีวี 65 นิ้ว
การเลือกซื้อ ทีวี 65 นิ้ว ยี่ห้อไหนดี ควรพิจารณาตามการใช้งานและงบประมาณของคุณ หากคุณเป็น สายดูหนัง แนะนำ LG OLED หรือ TCL QLED ที่รองรับ Dolby Vision และให้สีสันคมชัดที่สุด สำหรับ สายเล่นเกม ควรมองหาทีวีที่มี HDMI 2.1, 120Hz Refresh Rate และ VRR เช่น TCL Mini LED หรือ LG NanoCell เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหล ส่วน สายงบจำกัด ที่ต้องการ ทีวีราคาคุ้มค่า ควรเลือก Samsung Crystal UHD หรือ Xiaomi TV A Pro ที่ให้คุณภาพดีในราคาประหยัด
หากคุณต้องการเปรียบเทียบทีวีขนาดที่เล็กลง เช่น 55 นิ้ว ลองดูบทความ 10 ทีวี 55 นิ้วยี่ห้อไหนดี 2025 ซึ่งมีตัวเลือกที่หลากหลายและตอบโจทย์การใช้งานในงบที่เหมาะสม ทั้ง ทีวีจอใหญ่ราคาถูก, ทีวียี่ห้อไหนดี และทีวีแนะนำ 2025 เพื่อให้คุณเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ!