หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือคู่ใจในการดูแลสนามหญ้าหรือสวนรอบบ้านให้เรียบร้อยอยู่เสมอ “เครื่องตัดหญ้าไร้สาย” คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่อง ความสะดวก ประหยัดแรง และคล่องตัว ในการใช้งาน ไม่ต้องพึ่งพาสายไฟให้เกะกะ และสามารถเคลื่อนย้ายไปตัดหญ้าได้ทั่วทุกมุมโดยไม่ติดข้อจำกัด ในปี 2025 นี้ มีหลากหลายแบรนด์ออกสินค้าเครื่องตัดหญ้าไร้สายรุ่นใหม่ๆ ที่เน้นทั้ง พลังตัดที่แรง ทนทาน ใช้งานง่าย และราคาคุ้มค่า เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่อยากมีสนามหญ้าสวยสะอาดอยู่เสมอ โดยไม่ต้องจ้างช่างหรือเสียเวลาทำงานหนักเกินไป บทความนี้ได้รวบรวม 10 เครื่องตัดหญ้าไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2025 รุ่นแนะนำจากแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น Makita, Bosch, Black+Decker, Total และอื่น ๆ พร้อมสรุปจุดเด่น ราคา และความคุ้มค่า เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า รุ่นไหนคือตัวเลือกที่ใช่สำหรับสวนของคุณ
เครื่องตัดหญ้าไร้สาย คืออะไร?
เครื่องตัดหญ้าไร้สาย คืออุปกรณ์สำหรับตัดหญ้าที่ทำงานด้วยแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาสายไฟหรือเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในบ้านหรือสวนขนาดเล็กถึงกลาง โดยเฉพาะคนที่กำลังมองหา เครื่องตัดหญ้าพกพา ใช้งานง่าย สะดวก และไม่ยุ่งยากกับการดูแลรักษา จุดเด่นของเครื่องตัดหญ้าไร้สายคือความคล่องตัวสูง ไม่ต้องลากสาย ไม่ต้องเติมน้ำมัน ไม่เกิดควัน และเสียงรบกวนน้อยกว่าเครื่องยนต์ เหมาะกับคนที่อยากตัดหญ้าแบบรวดเร็วและสะดวก อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือพลังงานอาจน้อยกว่าแบบมีสายหรือแบบเครื่องยนต์ และต้องรอเวลาชาร์จแบตเตอรี่เมื่อพลังงานหมด หากคุณกำลังสงสัยว่า ตัดหญ้าไร้สายแบบไหนดี ควรเลือกแบบที่แบตเตอรี่ทนทาน ใช้งานได้นาน และมีอะไหล่หรือศูนย์บริการรองรับในไทย
10 เครื่องตัดหญ้าไร้สาย ยี่ห้อไหนดี 2025
1. MAKITA DUR193Z : เครื่องตัดหญ้าไร้สาย 18V
MAKITA DUR193Z คือเครื่องตัดหญ้าไร้สายที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปไปจนถึงงานสวนระดับมืออาชีพ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ 18V ที่รองรับการใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ Makita ทุกรุ่นในซีรีส์เดียวกัน ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา จับถนัดมือ ใช้งานสะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องสายไฟเกะกะหรือปลั๊กพ่วงขณะทำงาน จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คือการออกแบบให้สามารถตัดหญ้าตามขอบหรือมุมแคบๆ ได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับการดูแลสวนภายในบ้านหรือสวนแนวราบ นอกจากนี้ยังมีระบบลดแรงสั่นสะเทือน ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่เมื่อยล้า เหมาะกับผู้ที่มองหา เครื่องตัดหญ้าไร้สายคุณภาพดี ที่คุ้มค่าในระยะยาว
คุณสมบัติเด่น
- ใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ Li-ion 18V ของ Makita
- ความเร็วรอบ 7,800 รอบ/นาที
- ระบบหมุนตัดด้วยสายเอ็น Nylon (เส้นเดี่ยว)
- ปรับความยาวก้านจับได้ตามสรีระผู้ใช้
- ดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 2.1 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
- หัวตัดปรับเอียงได้ สะดวกต่อการตัดหญ้าริมทางหรือพื้นที่แคบ
- ด้ามจับแบบ D-Shape เพิ่มความมั่นคงในการควบคุม
ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ไม่ต้องลากสายไฟ ใช้งานสะดวก | ไม่รวมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จในตัวเครื่อง |
น้ำหนักเบา เหมาะกับงานต่อเนื่อง | ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่กว้างมาก |
รองรับแบตเตอรี่ 18V Makita ทั่วไป | ระยะเวลาการใช้งานขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ที่ใช้ |
หัวตัดปรับองศาได้ เข้าซอกมุมดีเยี่ยม | ใช้ได้เฉพาะเส้นเอ็น ไม่รองรับใบมีดเหล็ก |
งานประกอบคุณภาพตามมาตรฐานญี่ปุ่น | ราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไปในท้องตลาดเล็กน้อย |
2. Black+Decker รุ่น BCBT1820D1-B1 เครื่องเล็มหญ้าไร้สาย 18 โวลต์
สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องตัดหญ้าไร้สายคุณภาพดี Black+Decker รุ่น BCBT1820D1-B1 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งานภายในบ้านอย่างแท้จริง มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 18 โวลต์ ให้พลังงานแรงต่อเนื่อง พร้อมหัวเปลี่ยนได้ทั้งแบบเส้นเอ็นและใบมีดเรซิน เหมาะสำหรับตัดหญ้ารอบบ้าน ซอกมุมแคบ หรือพื้นที่เล็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเครื่องออกแบบให้มีน้ำหนักเบา ใช้งานง่ายแม้เป็นมือใหม่ และที่สำคัญยังเป็นเครื่องตัดหญ้าไร้สายที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพงานประกอบและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เหมาะมากสำหรับผู้ที่กำลังเลือกซื้อ เครื่องตัดหญ้าสำหรับบ้าน หรือมองหา เครื่องเล็มหญ้าแบตเตอรี่ราคาไม่แพง แต่ใช้งานได้จริง
คุณสมบัติเด่น
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18V พร้อมแท่นชาร์จ
- มาพร้อมหัวเส้นเอ็นและใบมีดเรซิน เปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
- ระบบ E-drive แรงบิดสูง ตัดหญ้าได้รวดเร็ว
- เส้นผ่านศูนย์กลางในการตัดประมาณ 25 ซม.
- ด้ามจับปรับความยาวได้ตามผู้ใช้งาน
- เหมาะสำหรับเล็มหญ้ารอบบ้าน สวนเล็ก สนามขนาดย่อม
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ใช้งานง่าย ไม่ต้องลากสายไฟ | ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่ |
น้ำหนักเบา เหมาะกับงานรอบบ้าน | ระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องจำกัดตามความจุแบต |
มาพร้อมหัวตัด 2 แบบ เพิ่มความยืดหยุ่น | ต้องชาร์จแบตก่อนใช้งานทุกครั้ง |
แบรนด์น่าเชื่อถือ คุณภาพดี | ราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไปเล็กน้อย |
3. Total รุ่น TGTLI20018 เครื่องตัดหญ้าไร้สาย 20V Lithium-ion
สำหรับใครที่กำลังมองหา เครื่องตัดหญ้าไร้สายราคาประหยัด แต่คุณภาพเกินคุ้ม Total รุ่น TGTLI20018 คือตัวเลือกที่น่าจับตา ด้วยดีไซน์กะทัดรัด ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับตัดแต่งสนามหญ้าในบ้านหรือสวนส่วนตัวได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องง้อสายไฟ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 20 โวลต์ ให้กำลังตัดต่อเนื่องและประสิทธิภาพสูง สามารถตัดหญ้าตามขอบทาง หรือแนวแคบๆ ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์สาย DIY ที่มองหาเครื่องเล็มหญ้าไฟฟ้าพกพา ใช้งานง่าย มือใหม่ก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องมีทักษะเฉพาะด้าน
คุณสมบัติเด่น
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 20V ใช้งานได้นาน
- โครงสร้างน้ำหนักเบา พกพาง่าย
- ด้ามจับปรับระดับได้ตามสรีระ
- ระบบสายเอ็น ตัดได้แม่นยำและรวดเร็ว
- เหมาะสำหรับสนามหญ้าในบ้าน สวน หรือริมทางเดิน
- ไม่ต้องต่อสายไฟ ใช้งานสะดวกทุกพื้นที่
- รองรับงานตัดหญ้าขนาดเล็กถึงกลาง
ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ราคาย่อมเยา คุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟังก์ชัน | ไม่เหมาะกับการตัดหญ้าพื้นที่ขนาดใหญ่ |
น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายแม้สำหรับผู้หญิงหรือผู้สูงอายุ | ต้องพักชาร์จเมื่อแบตหมด |
เหมาะสำหรับงานเล็มหญ้าในพื้นที่จำกัดหรือซอกแคบ | ไม่สามารถใช้ใบมีดแบบเหล็กได้ |
ด้ามจับออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ลดอาการเมื่อยล้า | อุปกรณ์เสริมบางชิ้นอาจต้องซื้อเพิ่ม |
4. TANZU 8″ เครื่องตัดหญ้าไร้สาย เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า มอเตอร์ BL TZ-LM-2000
ถ้าคุณกำลังมองหาเครื่องตัดหญ้าไร้สายที่ตอบโจทย์การใช้งานในสวนบ้านขนาดเล็กถึงกลาง รุ่น TANZU TZ-LM-2000 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา และพลังมอเตอร์แบบ Brushless (BL) ที่ให้กำลังแรงสม่ำเสมอ ช่วยให้การเล็มหญ้ารอบบ้านเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณขอบรั้ว ริมกำแพง หรือมุมแคบๆ ก็สามารถเข้าถึงได้สะดวก ใช้งานง่ายแม้แต่ผู้หญิงหรือผู้สูงอายุ อีกทั้งยังเป็น เครื่องเล็มหญ้าแบบไร้สาย ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาสายไฟให้ยุ่งยาก เหมาะสำหรับงานตัดหญ้าระดับเบาไปถึงกลางในพื้นที่บ้าน ใช้งานได้ต่อเนื่อง และประหยัดพลังงาน
คุณสมบัติเด่น
- ขนาดใบตัด 8 นิ้ว ใช้งานได้ทั้งเล็มหญ้าและแต่งขอบ
- มอเตอร์แบบ Brushless (BL) พลังแรง เสียงเบา
- ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium Battery)
- โครงสร้างน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย
- เหมาะสำหรับใช้งานในสวนบ้านหรือพื้นที่แคบ
- ปรับระดับการใช้งานได้หลายระดับตามความเหมาะสม
ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ | ไม่เหมาะกับสนามหญ้าขนาดใหญ่มาก |
มอเตอร์ Brushless ทนทาน ไม่กินไฟ | ไม่รวมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จในบางแพ็คเกจ |
น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายแม้มือใหม่ | ไม่สามารถตัดหญ้าหนาแน่นหรือวัชพืชแข็งมากได้ |
ไร้สาย คล่องตัว ไม่เกะกะสายไฟ | ระยะเวลาการใช้งานขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ที่ใช้ |
5. TANZU 1880W เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า แบตเตอรี่ เครื่องเล็มหญ้า เครื่องตัดแต่งกิ่ง
TANZU 1880W คือเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าแบบไร้สายที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการดูแลสวนรอบบ้านให้ดูสะอาดเรียบร้อย ด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา และใช้งานง่าย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหาเครื่องเล็มหญ้าแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ทั้ง ตัดหญ้าและแต่งกิ่งไม้เล็ก ได้ในเครื่องเดียว ตัวมอเตอร์ให้กำลังไฟสูงถึง 1880 วัตต์ มาพร้อมหัวเปลี่ยนใบมีดและเส้นเอ็นในชุด ช่วยให้สามารถทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเล็มหญ้าในพื้นที่แคบ งานเก็บขอบ หรือแม้แต่ตัดแต่งกิ่งขนาดเล็ก ถือเป็นหนึ่งในเครื่องตัดหญ้าสำหรับสวนบ้านที่ราคาย่อมเยา แต่ใช้งานได้คุ้มเกินราคา เหมาะกับมือใหม่และผู้ใช้งานทั่วไปในปี 2025
คุณสมบัติเด่น
- มอเตอร์กำลังสูง 1880 วัตต์ รองรับการตัดหญ้าและแต่งกิ่ง
- ใช้งานไร้สาย พร้อมแบตเตอรี่ในชุด
- ปรับองศาการตัดได้หลายระดับ
- มาพร้อมหัวเปลี่ยนใบมีดและเส้นเอ็น
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ใช้งานง่าย
- เหมาะสำหรับใช้งานในบ้าน สวนหลังบ้าน หรือพื้นที่จำกัด
ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ราคาคุ้มค่า เหมาะกับผู้เริ่มต้น | ไม่เหมาะสำหรับงานหนักหรือเชิงพาณิชย์ |
ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งตัดหญ้าและแต่งกิ่ง | อายุแบตเตอรี่อาจต้องพิจารณาก่อนซื้อเพิ่ม |
น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายแม้เป็นผู้หญิงหรือผู้สูงอายุ | ไม่มีระบบดูดเศษหญ้าในตัว |
ใช้งานไร้สาย เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องพ่วงสายไฟ | ความทนทานอาจน้อยกว่ารุ่นระดับโปร |
6. MAKITA DUR190UZX1 : เครื่องตัดหญ้าไร้สาย 18V พร้อมใบเหล็ก
เครื่องตัดหญ้าไร้สาย MAKITA DUR190UZX1 เป็นรุ่นยอดนิยมที่มาพร้อมใบมีดเหล็กคุณภาพสูง ช่วยให้ตัดหญ้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องตัดหญ้าสำหรับสวนขนาดกลางถึงใหญ่ มาพร้อมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Automatic Torque Drive) ที่สามารถปรับความแรงของมอเตอร์ให้เหมาะกับสภาพหญ้าได้อย่างชาญฉลาด ด้วยพลังแบตเตอรี่ 18V จากตระกูล LXT ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องและประหยัดพลังงาน เหมาะทั้งสำหรับใช้งานภายในบ้านและงานตัดหญ้าเชิงพาณิชย์ หากคุณกำลังมองหา เครื่องตัดหญ้าไร้สายที่ทนทาน ใช้งานง่าย ตัดหญ้าได้เรียบสวย รุ่นนี้คือคำตอบที่คุ้มค่าทุกการลงทุน
คุณสมบัติเด่น
- ใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ 18V LXT ของ Makita
- ใบมีดเหล็ก แข็งแรง ทนทาน ตัดหญ้าหนาได้ดี
- ระบบปรับรอบอัตโนมัติ (ADT) ตามความหนาของหญ้า
- ด้ามจับออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ น้ำหนักเบา
- เหมาะสำหรับพื้นที่สวนกลางแจ้ง สนามหญ้า และขอบทาง
ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ใบมีดเหล็กตัดได้เร็วและเรียบกว่ารุ่นที่ใช้เส้นเอ็น | ไม่รวมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จในตัวเครื่องเปล่า |
ระบบมอเตอร์อัจฉริยะปรับแรงตามลักษณะการตัด | ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรุ่นทั่วไป |
รองรับแบต 18V LXT ที่มีใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Makita รุ่นอื่นได้ | ต้องใช้แบตความจุสูงเพื่อการใช้งานต่อเนื่องนาน |
เหมาะกับการตัดหญ้าหนา พื้นที่ขนาดกลางถึงใหญ่ | อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานเฉพาะงานเบา |
7. Total รุ่น TGTLI20328 เครื่องตัดหญ้าไร้สาย 20V (ตัดแนวตั้งได้)
สำหรับคนที่กำลังมองหา เครื่องเล็มหญ้าไร้สาย ที่ทั้งสะดวกและใช้งานง่าย Total รุ่น TGTLI20328 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากในปี 2025 ด้วยดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปหรือเจ้าของบ้านที่ต้องการดูแลสวนด้วยตัวเอง รุ่นนี้ใช้แบตเตอรี่ขนาด 20 โวลต์ รองรับการตัดหญ้าได้ทั้งแนวราบและแนวตั้ง ช่วยให้ตัดขอบสนามหรือมุมที่เข้าถึงยากได้อย่างง่ายดาย การออกแบบด้ามจับสามารถปรับระดับได้ รองรับการใช้งานทั้งในพื้นที่กว้างและแคบ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนช่วยให้ใช้งานต่อเนื่องได้นานและชาร์จซ้ำได้หลายรอบ เหมาะกับงานดูแลสวนรอบบ้านหรือสนามหญ้าขนาดเล็กถึงกลาง ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีทักษะช่าง
คุณสมบัติเด่น
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 20V ชาร์จไว ใช้งานได้นาน
- ตัดหญ้าได้ทั้งแนวราบและแนวตั้ง
- ปรับระดับด้ามจับได้ตามสรีระ
- ตัวเครื่องน้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- เหมาะสำหรับสนามหญ้าขนาดเล็กถึงกลาง
- เหมาะกับการดูแลสวนรอบบ้านโดยไม่ต้องใช้สายไฟ
ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ปรับมุมตัดได้หลายทิศทาง | ไม่เหมาะกับหญ้าหนาแน่นหรือแข็งมาก |
ใช้งานง่ายแม้ไม่เคยใช้เครื่องมาก่อน | ไม่รวมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จในบางเซต |
น้ำหนักเบา เหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้หญิง | ใช้งานต่อเนื่องได้จำกัดตามแบตเตอรี่ |
ดีไซน์ทันสมัย แข็งแรง คุ้มราคา | ต้องซื้ออะไหล่หรือเส้นเอ็นเพิ่มในระยะยาว |
8. MAKITA UR100DZ : เครื่องตัดหญ้าไร้สาย 12Vmax
เครื่องตัดหญ้าไร้สาย MAKITA UR100DZ เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหาอุปกรณ์ดูแลสวนขนาดเล็กหรือพื้นที่จำกัด มาพร้อมระบบมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง ใช้แบตเตอรี่ 12Vmax ที่ให้พลังเพียงพอต่อการเล็มหญ้ารอบบ้านโดยไม่ต้องลากสายไฟให้ยุ่งยาก ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 2.1 กิโลกรัม จับถนัดมือ ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสนามหญ้าด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนหัวตัดได้ทั้งแบบเส้นเอ็นและใบมีด ช่วยให้คุณเลือกใช้งานได้ตามลักษณะของพื้นที่ รีวิวเครื่องตัดหญ้า MAKITA รุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่าทั้งในด้านราคาและความทนทาน เหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องตัดหญ้าขนาดเล็ก ใช้งานในบ้านหรือพื้นที่แคบ
คุณสมบัติเด่น
- ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 12Vmax (ระบบไร้สายเต็มรูปแบบ)
- น้ำหนักเบาเพียง 2.1 กิโลกรัม
- ความเร็วรอบ 10,000 รอบ/นาที
- ปรับความยาวของด้ามจับได้
- รองรับหัวตัดแบบเส้นเอ็น
- ระบบปลอดภัยหยุดหมุนทันทีเมื่อปล่อยปุ่ม
- เหมาะสำหรับเล็มหญ้าในสวนขนาดเล็กหรือพื้นที่จำกัด
ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
น้ำหนักเบา พกพาสะดวก | กำลังตัดน้อยกว่ารุ่นแบตเตอรี่ 18V |
เหมาะสำหรับใช้งานในบ้านและสวนเล็ก | ไม่เหมาะกับหญ้าหนาแน่นหรือพื้นที่กว้าง |
แบรนด์ Makita เชื่อถือได้ | ต้องซื้อแบตเตอรี่และแท่นชาร์จแยก |
มีระบบตัดอัตโนมัติเมื่อปล่อยปุ่ม | ใช้งานต่อเนื่องได้น้อยกว่ารุ่นความจุสูง |
9. BOSCH ชุดสุดคุ้ม GRT18V-33 + แบตเตอรี่ + แท่นชาร์จ
หากคุณกำลังมองหา เครื่องตัดหญ้าไร้สายคุณภาพสูง ที่มาพร้อมทุกอย่างในชุดเดียว BOSCH GRT18V-33 รุ่นนี้คือคำตอบที่ใช่ ด้วยแบรนด์ที่เชื่อถือได้จากเยอรมนี ชุดนี้ประกอบด้วยเครื่องตัดหญ้าไร้สาย 18V แบบสายเอ็น พร้อมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จ รองรับการใช้งานต่อเนื่องในสวนรอบบ้าน น้ำหนักเบา จับถนัดมือ เหมาะกับทั้งสนามหญ้าขนาดเล็กถึงกลาง ตัวเครื่องออกแบบให้ประหยัดพลังงาน มอเตอร์ทนทาน ใช้งานง่ายแม้สำหรับผู้เริ่มต้น ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและครบเครื่อง เหมาะสำหรับผู้ที่มองหา เครื่องเล็มหญ้าไร้สาย ที่ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม มีระบบป้องกันสายเอ็นขาด ทำให้ใช้งานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยในทุกพื้นที่
คุณสมบัติเด่น
- ระบบตัดแบบสายเอ็น 18V ทรงพลัง
- มาพร้อมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จในชุด
- ปรับความยาวด้ามจับให้เหมาะกับผู้ใช้ได้
- เหมาะสำหรับสนามหญ้าขนาดเล็กถึงกลาง
- ระบบป้องกันสายเอ็นขาดและใช้งานง่าย
- ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ น้ำหนักเบา
- รองรับแบตเตอรี่ BOSCH 18V รุ่นอื่น ๆ ได้
ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ครบชุดพร้อมใช้งาน ไม่ต้องซื้อเพิ่ม | ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรุ่นพื้นฐาน |
มอเตอร์ทนทาน ตัดหญ้าได้เรียบและเร็ว | ไม่เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่มาก |
น้ำหนักเบา ใช้งานได้คล่องตัว | ระยะเวลาการใช้งานต่อแบตเตอรี่จำกัด |
ปลอดภัย ใช้งานง่าย แม้ผู้เริ่มต้น | ต้องชาร์จแบตก่อนใช้งานเสมอ |
10. BOSCH GRT18V-33 SOLO เครื่องตัดหญ้าไร้สาย 18V แบบสายเอ็น
หากคุณกำลังมองหาเครื่องตัดหญ้าไร้สายคุณภาพสูงสำหรับใช้งานในบ้านหรือสวนขนาดกลาง BOSCH GRT18V-33 SOLO เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ มาพร้อมกับเทคโนโลยีการตัดแบบสายเอ็น ช่วยให้ตัดหญ้าได้แม่นยำและเรียบร้อย โดยไม่ทำลายพื้นดิน ใช้แบตเตอรี่ขนาด 18V ที่ให้พลังแรงต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการเล็มหญ้าบริเวณรอบรั้ว ทางเดิน หรือพื้นที่แคบ รุ่นนี้เป็นแบบเครื่องเปล่า จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีแบตเตอรี่ BOSCH อยู่แล้ว จุดเด่นของรุ่นนี้คือดีไซน์กระทัดรัด น้ำหนักเบา และรองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องตัดหญ้าสำหรับใช้งานจริงจังในสวนรอบบ้านหรือบ้านพักตากอากาศ
คุณสมบัติเด่น
- แรงดันไฟฟ้า 18V ใช้ร่วมกับระบบแบตเตอรี่ Bosch 18V ได้
- ระบบตัดแบบสายเอ็น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางการตัด 33 ซม.
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา ถือใช้งานง่าย ลดอาการเมื่อยล้า
- มีด้ามจับปรับระดับได้ รองรับการใช้งานหลายท่าทาง
- รับประกันศูนย์ BOSCH นาน 12 เดือน
- เหมาะสำหรับใช้งานตัดหญ้ารอบบ้าน, สวน, หรือริมรั้ว
ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
พลังตัดแรง ตัดหญ้าได้เรียบในพื้นที่จำกัด | ไม่รวมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จ |
ใช้ระบบแบตเตอรี่ 18V ที่ประหยัดพลังงาน | ราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไปเมื่อรวมแบตและแท่นชาร์จ |
เหมาะสำหรับการตัดหญ้าแนวขอบและมุมแคบ | ไม่เหมาะกับหญ้ารกหรือหนาแน่นมาก |
น้ำหนักเบา พกพาง่าย ไม่เมื่อยมือ | ต้องมีแบต BOSCH รุ่นเดียวกันถึงจะใช้ได้ทันที |
วิธีเลือกเครื่องตัดหญ้าไร้สายให้เหมาะกับคุณ
การเลือก เครื่องตัดหญ้าไร้สาย ให้ตอบโจทย์ ไม่เพียงแค่ดูจากราคาเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาจากลักษณะการใช้งานจริง เช่น พื้นที่สนาม ประเภทใบมีด ความจุแบตเตอรี่ และน้ำหนักเครื่อง เพื่อให้คุณใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด
พื้นที่สนามขนาดเล็ก / กลาง / ใหญ่
- สนามขนาดเล็ก (ต่ำกว่า 50 ตร.ม.) ควรเลือกเครื่องตัดหญ้าพกพาแบบน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย
- สนามขนาดกลาง (50–150 ตร.ม.) ควรเลือกแบบแบตเตอรี่ 18V ขึ้นไป รองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ 20–30 นาที
- สนามขนาดใหญ่ (เกิน 150 ตร.ม.) ควรเลือกรุ่นที่รองรับแบตเตอรี่ความจุสูง หรือแบตเสริม เพื่อการใช้งานต่อเนื่องนานขึ้น
ประเภทของใบมีด
- ใบมีดโลหะ เหมาะกับหญ้าหนา ตัดได้แรง แต่ต้องดูแลมากขึ้น
- สายเอ็น (Nylon String) เหมาะกับการเล็มขอบสนาม ตัดหญ้าทั่วไป ไม่ทำลายพื้น
- ใบเรซิน ทนทานกลางๆ เบา เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการดูแลสวนแบบง่ายๆ
ความจุแบตเตอรี่และระยะเวลาการใช้งาน
- ตรวจสอบ ความจุแบตเตอรี่เครื่องตัดหญ้า ก่อนซื้อ เช่น 2.0Ah, 4.0Ah หรือ 5.0Ah
- ยิ่งความจุสูง จะสามารถ ใช้งานต่อเนื่องได้นาน ขึ้น เช่น 30–60 นาทีต่อการชาร์จ
- สำหรับผู้ใช้ทั่วไปควรเลือกรุ่น ประหยัดไฟ และมีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อแบตใกล้หมด
น้ำหนักเครื่อง / ความสะดวกในการพกพา
- ควรเลือกเครื่องที่มี น้ำหนักเบา หากต้องใช้งานบ่อยหรือเป็นผู้สูงอายุ
- รุ่นที่มี ด้ามจับปรับระดับได้ และสายสะพายจะช่วยลดความเมื่อยล้า
- ตรวจสอบขนาดเครื่องและความยาวของด้าม เพื่อให้เหมาะกับสรีระของผู้ใช้
คำถามที่พบบ่อย(FAQ)
เครื่องตัดหญ้าไร้สายอยู่ได้นานกี่นาที?
โดยทั่วไป เครื่องตัดหญ้าไร้สายสามารถใช้งานได้ประมาณ 20–60 นาทีต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ขึ้นอยู่กับ ความจุแบตเตอรี่ และชนิดของเครื่อง หากเป็นรุ่นแบตเตอรี่ 4.0Ah ขึ้นไป จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานขึ้น เหมาะสำหรับสนามบ้านขนาดกลางถึงใหญ่ สำหรับใครที่สงสัยว่า เครื่องตัดหญ้าใช้ดีไหม ถ้าเลือกตามการใช้งานที่เหมาะสม ก็ถือว่าตอบโจทย์และคุ้มค่ามาก
เครื่องตัดหญ้าไร้สายตัดหญ้าหนา ๆ ได้ไหม?
เครื่องตัดหญ้าไร้สายสามารถตัดหญ้าหนาได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะรุ่นที่มี ใบมีดเหล็กหรือมอเตอร์แรงสูง หากต้องการตัดหญ้ารกหรือหญ้าหนาแน่น ควรเลือกรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานหนักโดยเฉพาะ หลายคนมักถามว่า ตัดหญ้าหนาๆ ได้หรือเปล่า คำตอบคือ ได้ แต่ควรดูที่พลังตัดของรุ่นนั้นๆ และเลือกแบบใบมีดแทนสายเอ็น
แบตเตอรี่ใช้เวลาชาร์จนานไหม?
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 1–2 ชั่วโมง แล้วแต่ยี่ห้อและขนาดของแบต ถ้าใช้รุ่นที่รองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charge) จะใช้เวลาสั้นลง สำหรับการใช้งานบ่อย แนะนำให้มีแบตสำรองอีกก้อนเพื่อสลับใช้ และเลือกรุ่นที่ ทนทาน และมีระบบจัดการพลังงานดี จะช่วยยืดอายุแบตได้ยาวนานขึ้น
สรุปแนะนำส่งท้าย
เครื่องตัดหญ้าไร้สายกลายเป็นไอเท็มที่เจ้าของบ้านหลายคนเลือกใช้ในปี 2025 เพราะให้ความสะดวก พกพาง่าย ไม่ต้องลากสายไฟหรือเติมน้ำมันให้ยุ่งยาก แถมยังเหมาะกับสวนบ้านตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง โดยเฉพาะรุ่นที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้ ใช้งานต่อเนื่องหลายสิบนาที และมีน้ำหนักเบา ลดความเหนื่อยในการใช้งาน หากคุณกำลังมองหาเครื่องตัดหญ้าไร้สายที่คุ้มค่า ใช้งานง่าย และทนทานในระยะยาว นี่คือ 3 รุ่นแนะนำที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในปี 2025
Makita DUR193Z (เครื่องเปล่า)
น้ำหนักเบา พลังตัดดี เหมาะกับผู้ที่มีแบต Makita อยู่แล้ว ใช้งานง่าย สไตล์มืออาชีพ
รุ่นขายดีใน Shopee ลดราคาอยู่ รีบเลยก่อนของหมด!
Black+Decker BCBT1820D1-B1 (พร้อมแบตและใบเรซิน)
รุ่นครบเซ็ต พร้อมใช้งานทันที พลังตัดดีเยี่ยม เหมาะสำหรับบ้านทั่วไปหรือสวนขนาดกลาง
Total TGTLI20018 (20V พร้อมสายเอ็น)
คุ้มค่าที่สุดในงบประหยัด น้ำหนักเบา ตัดหญ้าได้ทั่วถึง เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้งาน
เครื่องตัดหญ้าไร้สายทั้ง 3 รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวก พกพาง่าย, ใช้งานต่อเนื่องได้หลายนาที, และดูแลสวนให้เรียบร้อยแบบไม่ยุ่งยาก เลือกรุ่นที่เหมาะกับคุณ แล้วคลิกสั่งซื้อได้ทันที ราคาดีตอนนี้มีโปรลดเยอะ!
หากบทความนี้ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือก เครื่องตัดหญ้าไร้สาย ได้ง่ายขึ้น อย่าลืม แชร์บทความนี้ให้เพื่อนหรือคนในครอบครัว ที่กำลังมองหาอุปกรณ์ดูแลสวนใช้งานง่ายและคุ้มค่าในปี 2025 ด้วยนะครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- 7 เคล็ดลับดูแลสนามหญ้าให้เขียวสวยตลอดปี
- เปรียบเทียบเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้ากับแบบเครื่องยนต์ เลือกแบบไหนดี?
แนะนำอ่านเพิ่มเติม