เชื่อว่าหลายครั้งที่ต้องตัดสินใจเลือกซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นใหญ่อย่างเครื่องซักผ้า คำถามที่วนเวียนอยู่ในใจคงหนีไม่พ้นการมองหาเครื่องที่ “ทนทาน” สามารถไว้ใจได้ในระยะยาว “ใช้งานง่าย” ไม่ต้องมีฟังก์ชันซับซ้อนให้ปวดหัว และที่สำคัญคือมี “ราคาที่เข้าถึงง่าย” สบายกระเป๋า ซึ่งท่ามกลางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป “เครื่องซักผ้า 2 ถัง” ก็ยังคงเป็นคำตอบสุดคลาสสิกที่ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานเหล่านี้ได้อย่างไม่มีตกยุค และยังคงครองใจผู้ใช้หลายครัวเรือนเสมอมา
อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 นี้ การเลือกซื้อ เครื่องซักผ้า 2 ถัง ก็จำเป็นต้องมองลึกลงไปกว่าเดิม เพราะแต่ละแบรนด์ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งระบบจานซักที่ทรงพลังช่วยให้ซักผ้าได้สะอาดยิ่งขึ้น และเทคโนโลยีการปั่นหมาดที่ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วจนแทบไม่ต้องง้อแดด บทความนี้จึงได้ทำหน้าที่รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุด เพื่อจัดอันดับเครื่องซักผ้า 2 ถังที่ดีที่สุด และตอบคำถามสำคัญที่ว่า “เครื่องซักผ้า 2 ถัง ยี่ห้อไหนดี 2025” โดยพิจารณาอย่างรอบด้าน ตั้งแต่ความจุที่เหมาะสม ความทนทานของวัสดุ อัตราการประหยัดไฟ ไปจนถึงรีวิวจริงจากผู้ที่ใช้งาน เพื่อให้คุณได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องที่ใช่ที่สุดสำหรับบ้านของคุณ
เช็คลิสต์ก่อนซื้อ! วิธีเลือกเครื่องซักผ้า 2 ถังให้คุ้มค่าและทนทาน
การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าสองถังให้ถูกใจและใช้งานได้ยาวนานไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจ ลองใช้เช็คลิสต์เหล่านี้เป็นแนวทาง รับรองว่าจะได้เครื่องที่ใช่กลับบ้านแน่นอน
1. ขนาดความจุ (กก.) ให้เหมาะกับจำนวนสมาชิก
สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือขนาดความจุของถังซัก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อปริมาณผ้าที่ซักได้ในแต่ละครั้ง การเลือกขนาดให้เหมาะกับ ขนาดครอบครัว จะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลาและพลังงาน
- 1-3 คน: ขนาด 10-13 กก. ถือว่าเพียงพอและคล่องตัวสำหรับการใช้งานทั่วไป
- 4 คนขึ้นไป: ควรมองหาขนาดที่ใหญ่ขึ้น เช่น เครื่องซักผ้า 2 ถัง 15 กิโล ขึ้นไป เพื่อรองรับปริมาณผ้าที่มากขึ้น
- ซักผ้าชิ้นใหญ่: หากคุณจำเป็นต้อง ซักผ้านวม ผ้าห่ม หรือผ้าม่านเป็นประจำ การเลือกรุ่นที่มีความจุ 14 กก. ขึ้นไปจะเหมาะสมที่สุด แม้สมาชิกในบ้านจะมีน้อยก็ตาม เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอให้ผ้าได้ขยับตัวและทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
2. เทคโนโลยีการซักและถังปั่นหมาด
แม้จะเป็นเครื่องซักผ้าแบบพื้นฐาน แต่ปัจจุบันหลายแบรนด์ได้ใส่เทคโนโลยีเข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การ ซักสะอาด ยิ่งขึ้น หัวใจสำคัญคือ จานซัก ที่ถูกออกแบบมาให้สร้างกระแสน้ำวนทรงพลังเพื่อช่วย ขจัดคราบ สกปรกฝังแน่นได้ดี โดยแต่ละยี่ห้อก็มีเทคโนโลยีเฉพาะตัว เช่น ระบบ Roller Jet ของ LG ที่ช่วยถูผ้าไปพร้อมกับการซัก ในส่วนของถังปั่นหมาดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะฟังก์ชันที่ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วอย่าง Air Turbo ของ Samsung ที่ดึงอากาศจากภายนอกเข้ามาช่วยไล่ความชื้น ทำให้ลดเวลาตากผ้าลงได้มาก
3. วัสดุตัวเครื่องและถังซัก
ความทนทาน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม ควรเลือกรุ่นที่ใช้ ตัวเครื่องพลาสติก ABS คุณภาพสูง ซึ่งมีความหนา แข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทก และไม่เป็นสนิมตลอดอายุการใช้งาน สำหรับถังซักภายในนั้นมีทั้งแบบพลาสติกคุณภาพสูงและสแตนเลส หากเป็นไปได้ การเลือกใช้ ถังซักสแตนเลส จะให้ความทนทานที่เหนือกว่า ช่วยลดการเกิดแบคทีเรียสะสม และเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการ ป้องกันสนิม อย่างถาวร
4. การประหยัดไฟและการประหยัดน้ำ
หลายคนอาจกังวลว่าเครื่องซักผ้า 2 ถัง กินไฟไหม? คำตอบคือ เครื่องซักผ้าประเภทนี้ถือว่าประหยัดพลังงานพอสมควร เนื่องจากเราสามารถควบคุมเวลาการซักและระดับน้ำได้เองโดยตรง อย่างไรก็ตาม วิธีการเลือกที่ง่ายและมั่นใจที่สุดคือการมองหาเครื่องที่มี ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีว่า เครื่องซักผ้า 2 ถัง ประหยัดไฟ และผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการใช้พลังงานมาเป็นอย่างดีแล้ว
5. การรับประกันและบริการหลังการขาย
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือเรื่องความอุ่นใจในระยะยาว ควรเลือกรุ่นที่มีการ รับประกันมอเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเครื่องอย่างน้อย 5-10 ปี เพราะเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความมั่นใจในคุณภาพของผู้ผลิต นอกจากนี้ ควรเลือกแบรนด์ที่มี ศูนย์บริการ ครอบคลุมและหาได้ง่าย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดปัญหาในอนาคต จะสามารถติดต่อเพื่อส่งซ่อมหรือหาซื้ออะไหล่ได้อย่างสะดวกสบาย
รีวิวจัดเต็ม 10 เครื่องซักผ้า 2 ถัง ยี่ห้อไหนดี 2025
1. LG เครื่องซักผ้า 2 ถัง รุ่น TT18NAPG ระบบ Roller Jet ซัก 18 กก.
สำหรับใครที่กำลังมองหา เครื่องซักผ้า 2 ถัง ที่จะมาเป็นผู้ช่วยจัดการงานซักล้างขนาดมหึมา LG รุ่น TT18NAPG ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ต้องพิจารณา ด้วย ความจุถังซัก ที่ให้มามากถึง 18 กิโลกรัม ทำให้การ ซักผ้ากองโต หรือแม้แต่การซักผ้านวมผืนหนาไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป จุดเด่นที่สุดของรุ่นนี้คือ ระบบ Roller Jet ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจานซักอันเป็นเอกลักษณ์ของ LG ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างกระแสน้ำวนที่ทรงพลัง สามารถเข้าสลาย คราบฝังลึก ได้อย่างหมดจด แต่ยังคงความอ่อนโยนต่อเนื้อผ้า ช่วยลดปัญหา ผ้าพันกัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมียมที่มีความ ทนทาน สูง หมดกังวลเรื่องสนิม ทำให้มั่นใจได้ถึงอายุการใช้งานที่ยาวนาน ถือเป็น เครื่องซักผ้าฝาบน ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านพลังการซักและความคุ้มค่าอย่างแท้จริง
สเปคเด่น:
- ความจุถังซัก: 18 กิโลกรัม
- ความจุถังปั่นหมาด: 10 กิโลกรัม
- ระบบจานซัก: Roller Jet ทรงพลัง ขจัดคราบสกปรก
- โปรแกรมการซัก: เลือกได้ 3 รูปแบบ (Gentle, Normal, Strong)
- เทคโนโลยีปั่นหมาด: Wind Jet Dry ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น ลดกลิ่นอับชื้น
- วัสดุตัวเครื่อง: ผลิตจากพลาสติกเรซิ่นชนิดพิเศษ แข็งแรงทนทานและป้องกันสนิม
ข้อดีของรุ่นนี้:
- ความจุเยอะที่สุด: เป็นหนึ่งในเครื่องซักผ้า 2 ถังที่ให้ความจุมากที่สุดในตลาด สามารถซักผ้านวมขนาดใหญ่ หรือผ้าของสมาชิกทั้งครอบครัวได้ในรอบเดียว ช่วย ประหยัดเวลา และพลังงาน
- ซักสะอาดหมดจด: ด้วยจานซัก Roller Jet ทำให้มั่นใจได้ในประสิทธิภาพการทำความสะอาด แม้กับผ้าที่สกปรกมาก
- แข็งแรงทนทาน: โครงสร้างและวัสดุถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาว
- ใช้งานง่าย: แผงควบคุมเป็นแบบปุ่มหมุนที่เข้าใจง่าย ไม่มีความซับซ้อน ผู้สูงอายุก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
เหมาะกับใคร:
รุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ ครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิก 5 คนขึ้นไป ซึ่งมีการซักผ้าปริมาณมากและบ่อยครั้ง รวมถึงบ้านที่ต้องการซักผ้าชิ้นใหญ่อย่างผ้าห่มหรือผ้านวมเป็นประจำโดยไม่ต้องส่งร้านซักรีด นอกจากนี้ยังตอบโจทย์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านซักรีด โฮมสเตย์ หรือรีสอร์ท ที่ต้องการเครื่องซักผ้าที่ทรงพลัง ทนทาน และ คุ้มค่า ในการลงทุน
2. LG เครื่องซักผ้า 2 ถัง รุ่น TT17NAPG ระบบ Roller Jet ซัก 17 กก.
สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้า 2 ถังที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความจุและพลังในการซัก LG รุ่น TT17NAPG ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วยความจุถังซักที่ให้มามากถึง 17 กิโลกรัม ทำให้การจัดการเสื้อผ้ากองโต หรือแม้กระทั่งการซักผ้านวมผืนใหญ่ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป จุดแข็งสำคัญของรุ่นนี้คือเทคโนโลยีจานซักแบบ Roller Jet ที่ทรงพลัง สร้างกระแสน้ำวนที่ช่วยถูผ้าและขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าผ้าจะสะอาดหมดจด ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ LG ผู้ใช้จึงสามารถมั่นใจได้ในเรื่องความทนทานและคุณภาพการผลิต ทำให้เป็นเครื่องซักผ้าฝาบนที่คุ้มค่าสำหรับการลงทุนในระยะยาว
สเปคเด่น:
- ความจุถังซัก: 17 กิโลกรัม
- ระบบจานซัก: Roller Jet พลังแรงหมุนทิศทางตรงข้าม
- โปรแกรมการซัก: เลือกได้ 3 รูปแบบ (Gentle, Normal, Strong)
- ตัวถัง: ผลิตจากพลาสติกเรซินคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน และป้องกันสนิม 100%
- ฟังก์ชันเพิ่มเติม: เลือกทางน้ำเข้าถังซักหรือถังปั่นได้
ข้อดีของรุ่นนี้:
- ความจุใหญ่พิเศษ: ด้วยขนาด 17 กิโลกรัม ทำให้สามารถซักผ้าจำนวนมากได้ในครั้งเดียว เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือซักผ้าชิ้นใหญ่อย่างผ้านวมและผ้าปูที่นอนได้อย่างสบาย
- ซักผ้าสะอาดล้ำลึก: ระบบ Roller Jet เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มแรงเสียดทานในการซัก ทำให้สามารถขจัดคราบสกปรกที่ฝังแน่นบนเนื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน: วัสดุตัวถังเป็นพลาสติกคุณภาพสูง ไม่ต้องกังวลเรื่องสนิมเหมือนเครื่องซักผ้าที่เป็นโลหะ มาพร้อมกับระบบกลไกที่เรียบง่าย ลดปัญหาจุกจิกกวนใจ
- ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน: แผงควบคุมแบบลูกบิดที่คุ้นเคย ทำให้ทุกคนในบ้านสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเรียนรู้ฟังก์ชันที่ยุ่งยาก
เหมาะกับใคร:
เครื่องซักผ้ารุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ ครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป ซึ่งมีการซักผ้าในปริมาณมากเป็นประจำ รวมถึงบ้านที่ต้องการซักทำความสะอาดของชิ้นใหญ่อย่างผ้านวม ผ้าม่าน หรือตุ๊กตาบ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการ เครื่องซักผ้าที่ทนทาน มีระบบการทำงานที่ไม่ซับซ้อน และให้ความสำคัญกับพลังการซักเพื่อความสะอาดสูงสุด มากกว่าฟังก์ชันอัตโนมัติที่หลากหลาย
3. SAMSUNG เครื่องซักผ้า 2 ถัง WT16B5240BA/ST พร้อมด้วย Air Turbo, 16 กก.
สำหรับใครที่กำลังมองหา เครื่องซักผ้า 2 ถัง ที่ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ SAMSUNG รุ่น WT16B5240BA/ST ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วยขนาด ความจุ 16 กก. ทำให้สามารถจัดการกับผ้ากองโตได้อย่างสบายใจ ไม่ว่าจะซักผ้ารายสัปดาห์ หรือทำความสะอาดชุดเครื่องนอนขนาดใหญ่ รุ่นนี้ก็เอาอยู่ จุดเด่นที่สำคัญคือพลังการซักที่ยอดเยี่ยม ช่วยขจัดคราบสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ในความสะอาดของเสื้อผ้า พร้อมกันนี้ยังมีเทคโนโลยี Air Turbo Drying System ที่เป็นเหมือนผู้ช่วยคนสำคัญในการ ปั่นหมาด ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วยิ่งขึ้น ลดปัญหากลิ่นอับชื้นโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน นับเป็นการ ประหยัดเวลา ให้กับพ่อบ้านแม่บ้านได้เป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์ที่แข็งแรงทนทานและฟังก์ชันที่เน้นการใช้งานจริง ทำให้ เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่นนี้เป็นหนึ่งในรุ่นแนะนำที่ให้ความคุ้มค่าสูง
สเปคเด่น:
- ความจุถังซัก: 16 กิโลกรัม
- ระบบปั่นหมาด: Air Turbo Drying System ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วและลดความชื้น
- ตัวถัง: ผลิตจากวัสดุเรซินคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน ป้องกันสนิม
- จานซัก: ดีไซน์พิเศษสร้างกระแสน้ำวนทรงพลัง ช่วยให้ซักผ้าสะอาดทั่วถึง
- ฟิลเตอร์: Magic Filter ช่วยดักจับเส้นใยผ้าและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์ยาวนาน หมดกังวลเรื่องความทนทาน
ข้อดีของรุ่นนี้:
- ซักผ้าได้เยอะจุใจ: ด้วยความจุถึง 16 กก. ทำให้สามารถซักผ้านวมผืนใหญ่ หรือเสื้อผ้าของสมาชิกทั้งครอบครัวได้ในรอบเดียว
- ผ้าแห้งเร็วขึ้น: ระบบ Air Turbo ช่วยลดระยะเวลาตากผ้าได้อย่างชัดเจน เหมาะอย่างยิ่งกับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบหรือช่วงที่อากาศไม่เอื้ออำนวย
- ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน: แผงควบคุมเป็นแบบลูกบิดที่คุ้นเคย ทำให้ทุกคนในบ้านสามารถใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้สูงอายุ
- แข็งแรงทนทาน: วัสดุตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ทนต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น ไม่เกิดสนิมง่าย
- ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบประสิทธิภาพและ ความจุ ที่ได้รับกับราคา ถือเป็น เครื่องซักผ้า 2 ถัง ราคา ที่จับต้องได้และให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
เหมาะกับใคร:
รุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีสมาชิก 4 คนขึ้นไป หรือบ้านที่ต้องการซักผ้าครั้งละมากๆ เพื่อประหยัดเวลา นอกจากนี้ยังตอบโจทย์บ้านที่ซักผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน หรือผ้านวมเป็นประจำ ด้วยความจุขนาดใหญ่ที่รองรับได้อย่างไม่มีปัญหา รวมถึงผู้ที่ต้องการเครื่องซักผ้าที่เน้นความทนทาน ใช้งานง่าย ไม่จุกจิก และมองหาเครื่องที่ให้ประสิทธิภาพการซักและการปั่นหมาดที่ดีในราคาที่คุ้มค่า
4. TOSHIBA เครื่องซักผ้าสองถัง 15 กก. รุ่น VH-J160WT
เมื่อพูดถึงเครื่องซักผ้าที่ทนทานและไว้ใจได้ ชื่อของ TOSHIBA มักจะเป็นหนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่หลายคนนึกถึง และสำหรับ TOSHIBA เครื่องซักผ้าสองถัง 15 กก. รุ่น VH-J160WT ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการเป็นเครื่องซักผ้า 2 ถังความจุขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในครัวเรือนอย่างแท้จริง รุ่นนี้โดดเด่นด้วยขนาดถังซักที่กว้างถึง 15 กิโลกรัม ทำให้การซักผ้าปริมาณมากในครั้งเดียว หรือการซักผ้านวมผืนใหญ่ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ระบบจานซักพลังสูงช่วยสร้างกระแสน้ำที่ทรงพลัง สามารถขจัดคราบสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ในความสะอาดหมดจด ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพดีที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทานและป้องกันสนิมได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้า 2 ถังที่เน้นการใช้งานระยะยาว
สเปคเด่น:
- ความจุถังซัก 15 กิโลกรัม และถังปั่นหมาด 12 กิโลกรัม
- จานซัก Hybrid Pulsator ขนาดใหญ่ ช่วยสร้างกระแสน้ำวนที่ซักสะอาดได้อย่างทั่วถึง
- มีโปรแกรมแช่ผ้า สูงสุด 20 นาที เพื่อช่วยสลายคราบฝังแน่นก่อนเริ่มซัก
- ตัวกรองสิ่งสกปรกแบบกล่อง ทนทานและใช้งานสะดวก
- ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติกพอลิโพรไพลีน (PP) คุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน ไม่เป็นสนิม
- รับประกันมอเตอร์นานถึง 10 ปีเต็ม
ข้อดีของรุ่นนี้:
- ความจุเยอะสะใจ: ด้วยถังซักขนาด 15 กก. จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือบ้านที่มักจะรวบรวมผ้าไว้ซักทีเดียวเยอะๆ ช่วยประหยัดเวลาและพลังงานได้ดี
- พลังซักเชื่อถือได้: จานซักที่ออกแบบมาเป็นพิเศษช่วยให้ผ้าสะอาดอย่างทั่วถึง ลดปัญหาผ้าพันกัน และสามารถจัดการกับคราบสกปรกได้ดีเยี่ยม
- ทนทานและใช้งานยาวนาน: โครงสร้างตัวเครื่องที่แข็งแรงทนทาน พร้อมการรับประกันมอเตอร์ที่ยาวนานถึง 10 ปี ทำให้เป็นเครื่องซักผ้าที่ลงทุนครั้งเดียวแล้วใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
- ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน: แผงควบคุมเป็นแบบปุ่มหมุนที่เข้าใจง่าย เหมาะกับทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการฟังก์ชันที่ซับซ้อน
เหมาะกับใคร:
รุ่นนี้เหมาะสำหรับ ครอบครัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ (สมาชิก 4-6 คนขึ้นไป) ที่มีปริมาณการซักผ้าในแต่ละครั้งค่อนข้างเยอะ รวมถึงบ้านที่ต้องการซักผ้าชิ้นใหญ่อย่างผ้านวม ผ้าห่ม หรือผ้าปูที่นอนเป็นประจำ นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับ ความทนทานและการใช้งานที่ไม่จุกจิก มากกว่าฟังก์ชันอัตโนมัติที่หลากหลาย เป็นเครื่องซักผ้าพื้นฐานที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่าในระยะยาว
5. SAMSUNG เครื่องซักสองถัง WT14B5040BA/ST พร้อมด้วย Power Storm Technology และ Air Turbo Drying, 14 กก.
สำหรับใครที่กำลังเปรียบเทียบและมองหา เครื่องซักผ้า 2 ถัง ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการซักที่เหนือกว่ารุ่นมาตรฐาน SAMSUNG WT14B5040BA/ST ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในปี 2025 นี้ ด้วยความจุ 14 กิโลกรัม ทำให้รองรับการซักผ้ากองโตของสมาชิกในบ้านได้สบาย จุดเด่นที่ทำให้ เครื่องซักผ้าซัมซุง รุ่นนี้แตกต่างคือเทคโนโลยี Power Storm ที่สร้างกระแสน้ำวนทรงพลังจากแกนซักตรงกลางและใบพัดด้านข้าง ช่วยให้สามารถ ขจัดคราบ สกปรกที่ฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยถนอมเนื้อผ้าไม่ให้พันกันจนเสียหาย นอกจากเรื่องการซักแล้ว ปัญหาผ้าแห้งไม่ทันใจและกลิ่นอับชื้นจะหมดไป ด้วยระบบปั่นหมาด Air Turbo Drying ที่ดึงอากาศเข้ามาช่วยในกระบวนการปั่น ทำให้ ถังปั่นหมาด สามารถรีดน้ำออกจากเสื้อผ้าได้มากขึ้น ช่วย ลดกลิ่นอับ และย่นระยะเวลาตากผ้าได้อย่างชัดเจน ถือเป็น เครื่องซักผ้า 14 กิโล ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความสะอาดและความรวดเร็วได้อย่างลงตัว
สเปคเด่น:
- ความจุการซัก: 14 กิโลกรัม
- เทคโนโลยีการซัก: Power Storm สร้างกระแสน้ำหลายทิศทางเพื่อการซักที่สะอาดยิ่งขึ้น
- ระบบปั่นหมาด: Air Turbo Drying System ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น
- ตัวกรอง: Magic Filter ดักจับใยผ้าและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วัสดุตัวถัง: ทำจากพลาสติกเรซินคุณภาพสูง ทนทาน ป้องกันสนิม 100%
ข้อดีของรุ่นนี้:
- พลังซักยอดเยี่ยม: ด้วย Power Storm สามารถขจัดคราบฝังแน่นได้ดีกว่าจานซักทั่วไป เหมาะกับการซักผ้าที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ
- ผ้าแห้งเร็วทันใจ: ระบบ Air Turbo Drying ช่วยประหยัดเวลาตากผ้าได้อย่างมาก เหมาะกับช่วงเวลาที่เร่งรีบหรือฤดูฝน
- ความจุขนาดใหญ่: รองรับการซักผ้าจำนวนมากได้ในครั้งเดียว รวมถึงการ ซักผ้านวม ขนาดมาตรฐานก็ไม่ใช่ปัญหา
- ทนทานและดูแลรักษาง่าย: ตัวเครื่องป้องกันสนิม และมี Magic Filter ที่ถอดล้างทำความสะอาดได้สะดวก ช่วยให้ ถังซัก สะอาดอยู่เสมอ
เหมาะกับใคร:
รุ่นนี้เหมาะสำหรับ ครอบครัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกประมาณ 4-6 คน ซึ่งมีปริมาณการซักผ้าในแต่ละสัปดาห์ค่อนข้างเยอะ รวมถึงบ้านที่ต้องการประสิทธิภาพในการปั่นหมาดสูงเป็นพิเศษ เช่น บ้านที่มีพื้นที่ตากผ้าจำกัด คอนโด หรือผู้ที่มักเจอปัญหาผ้าไม่แห้งในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่กำลังมองหา เครื่องซักผ้า 2 ถัง ยี่ห้อไหนดี ที่ให้ความ ทนทาน ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ยังคงได้เทคโนโลยีที่ช่วยให้การซักผ้าสะอาดและรวดเร็วกว่าเดิม
6. SAMSUNG เครื่องซักผ้า 2 ถัง WT13B5040BA/ST พร้อมด้วย Air Turbo, 13 กก.
สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องซักผ้า 2 ถังที่ให้ทั้งความทนทานและความสามารถในการซักที่ไว้วางใจได้ SAMSUNG รุ่น WT13B5040BA/ST ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วยความจุ 13 กก. ทำให้เป็นเครื่องซักผ้าที่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สามารถรองรับการซักผ้าในปริมาณมากต่อสัปดาห์ หรือแม้กระทั่งซักผ้าห่มผืนบางได้สบาย จุดเด่นที่สุดของรุ่นนี้คือเทคโนโลยี Air Turbo Drying System ที่ช่วยให้ผ้าปั่นหมาดได้แห้งเร็วยิ่งขึ้น ลดความชื้นสะสมในเนื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหากลิ่นอับและประหยัดเวลาในการตากผ้าไปได้มาก ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน พร้อมตัวถังที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี หมดกังวลเรื่องสนิม ทำให้เป็นเครื่องซักผ้าที่เน้นการใช้งานระยะยาวและให้ผลลัพธ์การซักที่สะอาดหมดจดคุ้มค่า
สเปคเด่น:
- ความจุการซัก: 13 กิโลกรัม
- ระบบปั่นหมาด: Air Turbo Drying System ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น
- วัสดุตัวถัง: ผลิตจากเรซินคุณภาพสูง ป้องกันสนิมและทนทานต่อการใช้งาน
- จานซัก: ออกแบบพิเศษเพื่อสร้างกระแสน้ำวนทรงพลัง ซักผ้าได้สะอาดทั่วถึง
- การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์ยาวนานถึง 5 ปี
ข้อดีของรุ่นนี้:
- ผ้าแห้งไว ประหยัดเวลา: ระบบ Air Turbo ช่วยลดระยะเวลาตากผ้า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับช่วงฤดูฝนหรือการตากในที่ร่ม
- ความจุเหมาะสม: ขนาด 13 โล เพียงพอต่อการใช้งานของครอบครัว 3-4 คน รองรับการซักผ้าจำนวนมากได้ดี
- ทนทาน ใช้งานยาวนาน: ตัวถังปลอดสนิมและแข็งแรงตามมาตรฐาน SAMSUNG ทำให้มั่นใจได้ในอายุการใช้งาน
- ใช้งานง่าย ไม่จุกจิก: แผงควบคุมเป็นแบบลูกบิดที่เข้าใจง่าย ผู้สูงอายุก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
- มั่นใจในคุณภาพและบริการ: เป็นแบรนด์ชั้นนำที่มีศูนย์บริการครอบคลุม ง่ายต่อการดูแลรักษา
เหมาะกับใคร:
รุ่นนี้เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (สมาชิก 3-4 คน) ที่ต้องการเครื่องซักผ้าที่แข็งแรงทนทานและใช้งานไม่ยุ่งยาก โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในคอนโด หอพัก หรือบ้านที่มีพื้นที่ตากผ้าจำกัด เนื่องจากระบบปั่นหมาด Air Turbo จะช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มองหาเครื่องซักผ้า 2 ถังคุณภาพดีที่ให้ประสิทธิภาพการซักสะอาดและมีการรับประกันที่น่าเชื่อถือในราคาที่คุ้มค่า
7. TCL เครื่องซักผ้า 2 ถัง Twin Tub ขนาด 14 กิโลกรัม พร้อมด้วยถังปั่นหมาดระบบ Air Dry รุ่น WT859FTTW
สำหรับใครที่กำลังมองหา เครื่องซักผ้า 2 ถัง ราคา ย่อมเยา แต่ได้ความจุที่ตอบโจทย์การใช้งานในบ้านอย่างแท้จริง TCL รุ่น WT859FTTW ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วยขนาดถังซักที่ใหญ่ถึง 14 กิโลกรัม ทำให้การ ซักผ้านวม หรือผ้ากองโตจากกิจกรรมตลอดสัปดาห์กลายเป็นเรื่องง่าย จบงานซักได้ในรอบเดียว ช่วยประหยัดทั้งเวลาและพลังงาน จุดเด่นที่ทำให้รุ่นนี้แตกต่างคือเทคโนโลยีถังปั่นหมาดระบบ Air Dry ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น ลดปัญหากลิ่นอับชื้นโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ทำให้เป็น เครื่องซักผ้าทนทาน ที่ไม่เพียงแต่ ซักผ้าสะอาด แต่ยังใส่ใจในรายละเอียดของการใช้งานจริง ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง หมดกังวลเรื่องสนิม พร้อมดีไซน์ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ทำให้เป็นอีกหนึ่งคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า เครื่องซักผ้า 2 ถัง ยี่ห้อไหนดี ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด
สเปคเด่น:
- ความจุถังซัก: 14 กิโลกรัม
- ความจุถังปั่นหมาด: 10 กิโลกรัม
- เทคโนโลยีพิเศษ: ระบบปั่นหมาด Air Dry ช่วยระบายอากาศ ลดความชื้นในเนื้อผ้า
- โปรแกรมการซัก: 2 โปรแกรม (ซักปกติ, ซักถนอมผ้า)
- วัสดุตัวถัง: พลาสติก ABS คุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน และป้องกันสนิม
- การรับประกัน: รับประกันตัวเครื่อง 1 ปี และมีการ รับประกันมอเตอร์ นานถึง 10 ปี
ข้อดีของรุ่นนี้ :
- ความจุเยอะสะใจ: ด้วย ถังซักขนาดใหญ่ 14 กก. ทำให้สามารถรองรับการซักผ้าของสมาชิกในครอบครัวได้หลายคน หรือซักผ้าชิ้นใหญ่อย่างผ้านวมและผ้าปูที่นอนได้อย่างสบาย
- ผ้าแห้งไว ลดกลิ่นอับ: ระบบ ปั่นหมาด แบบ Air Dry เป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบและลดปัญหาผ้าไม่แห้งทันใช้งาน
- ทนทาน ใช้งานยาวนาน: ตัวถังเป็นพลาสติกจึงไม่ต้องกังวลเรื่องสนิมหรือการผุกร่อนที่มักเกิดกับเครื่องซักผ้าที่วางในที่ชื้น
- ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับความจุและฟังก์ชันที่ได้รับ ถือเป็น เครื่องซักผ้าราคาประหยัด ที่ให้ประสิทธิภาพเกินตัว
เหมาะกับใคร :
รุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณการซักผ้าค่อนข้างเยอะในแต่ละครั้ง รวมถึงบ้านที่ต้องการซักผ้าชิ้นใหญ่อย่างผ้านวมเป็นประจำ นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องซักผ้าที่ ใช้งานง่าย ไม่จุกจิก และให้ความสำคัญกับความรวดเร็วในการทำให้ผ้าแห้ง เพื่อลดปัญหากลิ่นอับและเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมใช้งานได้ไวขึ้น โดยเฉพาะคนที่มองหาเครื่องซักผ้าที่ให้ความจุสูงในงบประมาณที่จำกัด
8. LG เครื่องซักผ้า 14 กิโล รุ่นTT14NARG.DBMPETH เครื่องซักผ้า 2 ถัง
สำหรับใครที่กำลังมองหา เครื่องซักผ้า 2 ถัง ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความจุและความทนทานในระยะยาว LG รุ่น TT14NARG.DBMPETH ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วยความจุถังซักที่มากถึง 14 กิโลกรัม ทำให้การซักผ้ากองโต หรือแม้กระทั่งผ้าชิ้นใหญ่อย่างผ้าห่มนวมและผ้าปูที่นอนกลายเป็นเรื่องง่ายในรอบเดียว จุดเด่นสำคัญของ เครื่องซักผ้าฝาบน รุ่นนี้คือการใช้เทคโนโลยีจานซักแบบ Roller Jet ที่ทรงพลัง ช่วยสร้างกระแสน้ำวนเพื่อสลายคราบสกปรกฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าผ้าจะสะอาดหมดจด ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะกับทุกเพศทุกวัย และด้วยวัสดุตัวถังที่แข็งแรง ทำให้เป็นเครื่องซักผ้าที่เน้นความคุ้มค่าและพร้อมจะอยู่คู่ครัวเรือนไปอีกนาน
สเปคเด่น:
- ความจุถังซัก 14 กิโลกรัม และถังปั่นหมาด 10 กิโลกรัม
- เทคโนโลยีจานซักแบบ Roller Jet ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดคราบ
- โปรแกรมการซักเลือกได้ 3 รูปแบบ (Gentle, Normal, Strong)
- ตัวถังผลิตจากเรซินคุณภาพสูง ทนทานต่อการใช้งานและป้องกันสนิม
- ดีไซน์ฝาปิดแบบใส สามารถมองเห็นการทำงานภายในได้
ข้อดีของรุ่นนี้:
- ความจุเยอะจุใจ: ด้วยขนาดถังซัก 14 กิโลกรัม ทำให้สามารถซักผ้าปริมาณมากได้ในครั้งเดียว ช่วยประหยัดเวลาและแรงงาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัว
- ซักสะอาดด้วย Roller Jet: จานซักที่เป็นเอกลักษณ์ของ LG ช่วยถูผ้าและขจัดคราบสกปรกได้อย่างทั่วถึง มั่นใจได้ในผลลัพธ์ความสะอาด
- ทนทานและใช้งานยาวนาน: โครงสร้างตัวเครื่องที่แข็งแรงและวัสดุที่ทนทาน ทำให้เป็นเครื่องซักผ้าที่คุ้มค่ากับการลงทุน ใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องจุกจิก
- ควบคุมง่าย ไม่ซับซ้อน: แผงควบคุมแบบลูกบิดที่เข้าใจง่าย ทำให้ทุกคนในบ้านสามารถใช้งานเครื่องได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาซักหรือการระบายน้ำ
เหมาะกับใคร:
รุ่นนี้เหมาะสำหรับ ครอบครัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกประมาณ 3-5 คน ซึ่งมีปริมาณผ้าที่ต้องซักในแต่ละสัปดาห์ค่อนข้างเยอะ รวมถึงบ้านที่ต้องการซักผ้าชิ้นใหญ่อย่างผ้านวมหรือชุดเครื่องนอนเป็นประจำ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ผู้ที่มองหา เครื่องซักผ้าที่ทนทาน ใช้งานง่าย ไม่ต้องการฟังก์ชันดิจิทัลที่ซับซ้อน และให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการซักทำความสะอาดและความคุ้มค่าในระยะยาวเป็นหลัก
9. Hisense เครื่องซักผ้าฝาบนสองถัง ความจุ 12 กก. รุ่น WSRB1201W
ในตลาดเครื่องซักผ้า 2 ถังปี 2025 ที่เน้นความคุ้มค่า Hisense รุ่น WSRB1201W ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าจับตามอง ด้วยการชูจุดเด่นที่ความจุขนาดใหญ่ถึง 12 กิโลกรัม ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวได้อย่างสบาย แม้จะต้องซักผ้ากองโตหรือผ้าชิ้นใหญ่อย่างผ้าห่มนวมก็ตาม ตัวเครื่องถูกออกแบบมาโดยเน้นความเรียบง่ายแต่แข็งแรงทนทาน เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงที่ทนต่อการใช้งานในสภาพแวดหัวข้อ: ความชื้นได้ดี มาพร้อมกับระบบจานซักที่ออกแบบพิเศษเพื่อสร้างกระแสน้ำวนที่ทรงพลัง ช่วยขจัดคราบสกปรกฝังแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ Hisense WSRB1201W เป็นเครื่องซักผ้าฝาบนที่มอบฟังก์ชันการทำงานพื้นฐานได้อย่างครบครัน ในราคาที่เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรกับงบประมาณ
สเปคเด่น:
- ความจุการซัก: 12 กิโลกรัม / ความจุถังปั่นหมาด 7.5 กิโลกรัม
- ประเภทเครื่อง: เครื่องซักผ้าสองถังฝาบน
- โปรแกรมการซัก: 2 โปรแกรม (ซักปกติ, ซักแบบนุ่มนวล)
- เทคโนโลยี: จานซักแบบ Bubble Clean สร้างฟองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการซัก
- วัสดุตัวเครื่อง: พลาสติก ABS คุณภาพสูง ทนทาน ปลอดสนิม
- ฟังก์ชันเสริม: แผ่นกรองเศษด้ายและสิ่งสกปรก
- การรับประกัน: รับประกันตัวเครื่อง 3 ปี และรับประกันมอเตอร์นานถึง 12 ปี
ข้อดีของรุ่นนี้:
- ความจุใหญ่ ราคาคุ้มค่า: เป็นหนึ่งในเครื่องซักผ้า 2 ถังที่ให้ความจุมากถึง 12 กก. ในราคาที่ไม่สูง ทำให้ซักผ้าจำนวนมากหรือซักผ้าห่มนวมได้สะดวก
- ทนทานและรับประกันยาวนาน: การเลือกใช้วัสดุที่ทนทานและการกล้ารับประกันมอเตอร์นานถึง 12 ปี สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้งานในระยะยาว
- ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน: แผงควบคุมแบบลูกบิดที่ชัดเจน ทำให้ทุกคนในบ้านสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเรียนรู้ฟังก์ชันที่ยุ่งยาก
- พลังซักสะอาด: จานซักถูกออกแบบมาให้กำจัดคราบได้ดี พร้อมถังปั่นหมาดประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น ประหยัดเวลาตากผ้า
- ประหยัดไฟ: ด้วยระบบการทำงานที่ไม่ซับซ้อน ทำให้มีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าไม่สูง ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในบ้าน
เหมาะกับใคร:
รุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ ครอบครัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ (สมาชิก 3-5 คน) ที่มีปริมาณการซักผ้าในแต่ละครั้งค่อนข้างเยอะ หรือผู้ที่ต้องการเครื่องซักผ้าสำหรับซักผ้าชิ้นใหญ่อย่างผ้านวมเป็นประจำ นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหา เครื่องซักผ้าที่ราคาไม่แพง แต่ให้ความสำคัญกับ ความทนทาน และการรับประกันที่ยาวนาน รวมถึงผู้ใช้งานที่ชื่นชอบความเรียบง่าย ไม่ต้องการฟังก์ชันอัตโนมัติที่ซับซ้อน และต้องการควบคุมขั้นตอนการซักและปั่นหมาดด้วยตนเอง
10. LG เครื่องซักผ้า 2 ถัง รุ่น TT11NARG ระบบ Roller Jet ซัก 11 กก.
สำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จำกัดอย่างคอนโดและอพาร์ตเมนต์ การมองหา เครื่องซักผ้าสองถังขนาดเล็ก ที่เปี่ยมประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ถือเป็นโจทย์สำคัญ LG TT11NARG รุ่นนี้คือคำตอบที่ลงตัว ด้วยขนาดถังซัก 11 กิโลกรัม ที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีจานซักทรงพลังอย่าง Roller Jet ที่ช่วยขจัดคราบฝังแน่นได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้มั่นใจได้ว่าการ ซักผ้าสะอาด หมดจด ในขณะที่ยังคงความอ่อนโยนต่อเนื้อผ้า การควบคุมที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนทำให้เป็น เครื่องซักผ้าที่ใช้งานง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตัวเครื่องผลิตจากพลาสติกพิเศษที่มีความทนทานสูง ช่วยการันตีการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ เครื่องซักผ้า LG ราคา นี้คุ้มค่าและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
สเปคเด่น:
- ความจุซัก: 11 กิโลกรัม
- ความจุปั่นหมาด: 8 กิโลกรัม
- ระบบการซัก: Roller Jet จานซักทรงพลังที่ช่วยถูผ้าและขจัดคราบสกปรก
- โปรแกรมการซัก: 3 โปรแกรม (ซักปกติ, ซักถนอมผ้า, ซักผ้าหนา)
- วัสดุตัวเครื่อง: พลาสติกพิเศษ แข็งแรงทนทาน
- ขนาดตัวเครื่อง (กว้าง x สูง x ลึก): 880 x 1025 x 530 มม.
- การรับประกัน: รับประกันมอเตอร์ 5 ปี และตัวเครื่อง 1 ปี
ข้อดีของรุ่นนี้ :
- พลังซัก Roller Jet: เทคโนโลยีจานซักที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดคราบ ทำให้ผ้าสะอาดยิ่งขึ้น
- ขนาดกะทัดรัด: ด้วยความจุ 11 กก. และดีไซน์ที่ ประหยัดพื้นที่ ทำให้เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ซักล้างจำกัด
- ใช้งานง่าย: แผงควบคุมแบบลูกบิดที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถเลือกโปรแกรมและตั้งเวลาได้อย่างสะดวก
- ความทนทาน: ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงตามมาตรฐาน LG และมีการรับประกันมอเตอร์ที่ยาวนาน
- คุ้มค่า: เป็น เครื่องซักผ้าทนทาน ที่ให้ประสิทธิภาพการซักที่ดี ในราคาที่จับต้องได้
เหมาะกับใคร :
รุ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษา, คนที่เพิ่งเริ่มทำงาน, ครอบครัวขนาดเล็กที่มีสมาชิก 2-3 คน หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมและอพาร์ตเมนต์ที่มีพื้นที่จำกัด นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับบ้านที่ต้องการเครื่องซักผ้าสำรองสำหรับแยกซักผ้าขาว, ผ้าสี หรือผ้าที่สกปรกเป็นพิเศษออกจากกัน เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายในการใช้งาน ความทนทาน และผลลัพธ์การซักที่เชื่อถือได้ โดยไม่ต้องจ่ายแพงเพื่อฟังก์ชันที่ไม่จำเป็น
แน่นอนค่ะ นี่คือตารางสรุปสำหรับวางไว้ส่วนบนของบทความ เพื่อการเปรียบเทียบที่รวดเร็ว
ตารางสรุป 10 อันดับ เครื่องซักผ้า 2 ถัง ที่ดีที่สุด 2025
อันดับ | ชื่อรุ่น | ขนาดความจุ (กก.) | คุณสมบัติเด่น |
1 | LG TT18NAPG | 18 | ระบบซัก Roller Jet, ความจุใหญ่ที่สุดสำหรับครอบครัวใหญ่ |
2 | LG TT17NAPG | 17 | ระบบซัก Roller Jet, ถังซักขนาดใหญ่พิเศษ |
3 | SAMSUNG WT16B5240BA/ST | 16 | ระบบปั่นหมาด Air Turbo ช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว |
4 | TOSHIBA VH-J160WT | 15 | แข็งแรงทนทานตามมาตรฐานญี่ปุ่น, ความจุสูง |
5 | SAMSUNG WT14B5040BA/ST | 14 | เทคโนโลยี Power Storm และ Air Turbo Drying ซักสะอาด แห้งไว |
6 | SAMSUNG WT13B5040BA/ST | 13 | ระบบปั่นหมาด Air Turbo, ได้รับคะแนนรีวิวสูง |
7 | TCL WT859FTTW | 14 | ถังปั่นหมาดมีระบบ Air Dry, ราคาคุ้มค่า |
8 | LG TT14NARG.DBMPETH | 14 | แบรนด์น่าเชื่อถือ, มาพร้อมจานซัก Roller Jet |
9 | Hisense WSRB1201W | 12 | ราคาเข้าถึงง่าย, ขนาดกะทัดรัด |
10 | LG TT11NARG | 11 | ระบบซัก Roller Jet, เหมาะสำหรับคอนโดหรือพื้นที่จำกัด |
ตารางเปรียบเทียบ: เครื่องซักผ้า 2 ถัง vs ฝาบนถังเดียว
คุณสมบัติ | เครื่องซักผ้า 2 ถัง (กึ่งอัตโนมัติ) | เครื่องซักผ้าฝาบนถังเดียว (อัตโนมัติ) |
---|---|---|
ราคา | ถูกกว่ามาก เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นความคุ้มค่าและมีงบจำกัด | ราคาสูงกว่า เนื่องจากมีเทคโนโลยีและฟังก์ชันซับซ้อนกว่า |
ความสะดวกสบาย | ต้องใช้แรงและเวลามากกว่า เพราะต้องย้ายผ้าจากถังซักไปถังปั่นเอง และควบคุมการเติม/ปล่อยน้ำเอง | สะดวกสบายสูงสุด แค่ใส่ผ้า กดปุ่มเดียว เครื่องทำงานทุกขั้นตอนจนจบ (ซัก-ล้าง-ปั่นแห้ง) |
ความเร็วในการซัก | รวดเร็วกว่า สามารถซักผ้าชุดใหม่ในถังซัก ขณะที่ผ้าชุดเก่ากำลังปั่นหมาดอยู่ได้ ทำให้ซักผ้าปริมาณมากเสร็จไวกว่า | ใช้เวลานานกว่าต่อรอบ เพราะทุกขั้นตอนทำในถังเดียวตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ (ประมาณ 1-2 ชั่วโมง) |
ความทนทาน | ทนทานสูงมาก มีกลไกไม่ซับซ้อน อะไหล่หาง่ายและราคาไม่แพง ซ่อมบำรุงง่ายกว่า | ทนทานน้อยกว่า มีแผงวงจรไฟฟ้าและเซ็นเซอร์ที่ซับซ้อน หากเสีย ค่าซ่อมอาจสูง |
ประสิทธิภาพการซัก | ซักสะอาด เพราะผู้ใช้ควบคุมปริมาณน้ำ เวลา และผงซักฟอกได้เอง สามารถแช่ผ้าหรือซักซ้ำได้ตามต้องการ | ซักสะอาดตามมาตรฐาน มีโปรแกรมซักหลากหลายให้เลือกตามชนิดผ้า แต่ควบคุมเองไม่ได้มากนัก |
การประหยัดไฟ/น้ำ | ควบคุมได้เอง สามารถใช้น้ำซ้ำในการซักผ้าขาวต่อผ้าสีได้ และเลือกปริมาณน้ำกับเวลาได้อิสระ | ขึ้นอยู่กับโปรแกรม โดยทั่วไปมักใช้ปริมาณน้ำและไฟฟ้าตามที่ตั้งค่ามาจากโรงงาน แต่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ให้เลือก |
การติดตั้ง | ง่ายและยืดหยุ่น ไม่ต้องเดินระบบท่อถาวร สามารถต่อสายยางจากก๊อกน้ำและวางท่อน้ำทิ้งได้เลย เคลื่อนย้ายสะดวก | ต้องติดตั้งถาวร จำเป็นต้องมีจุดต่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งที่ได้มาตรฐาน |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
เลือกเครื่องซักผ้า 2 ถัง ถ้าคุณเน้น ราคาประหยัด, ความทนทานสูง, ซ่อมง่าย และต้องการ ความเร็ว ในการซักผ้าปริมาณมากๆ โดยไม่เกี่ยงที่จะต้องย้ายผ้าเอง
เลือกเครื่องซักผ้าฝาบนถังเดียว ถ้าคุณต้องการ ความสะดวกสบายสูงสุด (แค่กดปุ่มแล้วรอ) มีโปรแกรมซักหลากหลาย และมีงบประมาณสูงขึ้น
ไม่มากครับ โดยทั่วไปถือว่า ประหยัดไฟ เพราะมีกำลังไฟ (วัตต์) ไม่สูง และเราสามารถควบคุมเวลาการทำงานของมอเตอร์ได้เองโดยตรง เพื่อความมั่นใจสูงสุด ควรเลือกรุ่นที่มี “ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5” ซึ่งรับรองว่าผ่านการทดสอบเรื่องการประหยัดพลังงานมาเป็นอย่างดี
ซักได้ครับ แต่ต้องเลือกขนาดความจุของเครื่องให้เหมาะสม หากต้องการซักผ้านวมขนาดมาตรฐาน (5-6 ฟุต) ควรเลือกรุ่นที่มีความจุ 14-15 กิโลกรัมขึ้นไป เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอที่ผ้านวมจะขยับตัวและทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง การใช้เครื่องที่เล็กเกินไปอาจทำให้ซักไม่สะอาดและทำให้มอเตอร์ทำงานหนักเกินไป
ด้วยกลไกที่ไม่ซับซ้อน ทำให้เครื่องซักผ้า 2 ถังขึ้นชื่อเรื่อง ความทนทานสูงมาก หากดูแลรักษาอย่างถูกวิธี สามารถใช้งานได้ยาวนาน 10-15 ปีขึ้นไป ซึ่งโดยทั่วไปมักมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าเครื่องซักผ้าอัตโนมัติครับ
บทสรุปและตารางเปรียบเทียบราคา
มาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า แม้เทคโนโลยีจะก้าวไปไกลแค่ไหน แต่ เครื่องซักผ้า 2 ถัง ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับ ความทนทาน ที่ไว้ใจได้ในระยะยาว กลไกที่ไม่ซับซ้อนทำให้ดูแลรักษาง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ ราคาที่คุ้มค่า ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณไปได้มาก
หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ ทั้งรีวิวเชิงลึก วิธีการเลือกซื้อ และตารางเปรียบเทียบ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลือก เครื่องซักผ้า 2 ถัง ยี่ห้อไหนดี 2025 ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของบ้านคุณมากที่สุด
หากยังลังเลใจ เราขอสรุป Top 3 รุ่นเด่นตามการใช้งานอีกครั้งสั้นๆ ดังนี้ครับ:
- จุสะใจที่สุด: LG TT18NAPG (18 กก.)
สำหรับครอบครัวใหญ่ หรือบ้านที่ต้องซักผ้าชิ้นหนาๆ บ่อยครั้ง รุ่นนี้ตอบโจทย์ด้วยความจุที่ใหญ่ที่สุดในลิสต์ - ปั่นหมาดแห้งเร็ว: SAMSUNG WT16B5240BA/ST (16 กก.)
โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Air Turbo ที่ช่วยให้ผ้าแห้งหมาดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลดเวลาตากผ้า เหมาะกับช่วงหน้าฝน - คุ้มค่าที่สุด: TOSHIBA VH-J160WT (15 กก.)
ด้วยความจุขนาดใหญ่ถึง 15 กก. ในราคาที่เข้าถึงง่ายมาก ถือเป็นตัวเลือกที่มอบความคุ้มค่าได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในด้านขนาดและคุณภาพ
สุดท้ายนี้ หากคุณมีประสบการณ์ใช้งานเครื่องซักผ้า 2 ถังรุ่นไหนที่อยากแบ่งปัน หรือมีคำถามเพิ่มเติมที่ยังสงสัย สามารถแสดงความคิดเห็นไว้ที่ด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ!